ร้านนี้ต้องไป EP1 : PLAY BIKE SHOP

วันนี้เราอยู่กันที่ร้าน PLAY BIKE SHOP หนึ่งใน Shimano Service Center ของเรา ซึ่งเป็นร้านขายจักรยานตั้งแต่ระดับเริ่มต้นตั้งแต่ BALANCE BIKE ไปจนถึงระดับ Hi-End อาทิเช่น Trek, Giant, Factor, Cannondale, Cervelo, Santa Cruz ฯลฯ และจำหน่ายอุปกรณ์จักรยานทุกประเภท ร้านอยู่โซนศรีนครินทร์ แบริ่ง เดินทางสะดวก บริการครบวงจร และยังให้คำปรึกษาเกี่ยวกับจักรยานอีกด้วย

บอกเลยว่าร้าน PLAY BIKE นั้นมีสินค้าในเครือ SHIMANO ครบถ้วนแน่นอน ไม่ว่าจะ อะไหล่ย่อย WOP และ ชิ้นส่วนอุปกรณ์จักรยาน PRO รวมไปถึง ชุดขับจักรยานตัวท็อปก็มีให้เลือกเช่นกัน

นอกจากนี้ สำหรับรองเท้า ร้าน PLAY BIKE ก็มีให้คุณหมด ไม่ว่าจะตัวท็อป ตัวกลาง และตัวเริ่มต้น และสำหรับคนที่อยากได้อะไหล่ที่ใช่คู่กันกับรองเท้าอย่างคลีทและบันได ทางร้านก็มีพร้อมบริการ

ร้าน PLAY BIKE SHOP
ที่ตั้ง : 406 ซ.ศรีด่าน11 ถ.ศรีนครินทร์ สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10270
โทรศัพท์ : 086 575 4331
เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 18.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
Facebook : PLAY Bike Shop

ร้านนี้ต้องไป EP1 : PLAY BIKE SHOP2024-10-24T15:47:59+07:00

พาชม “Schwalbe Brand World”

พาชม ” ” ที่เราได้ไปชมที่ Schwalbe Headquarter ที่เมือง Reichshof ประเทศ Germany กันครับ
Schwalbe นั้นเป็นแบรนด์ของยางที่เกิดขึ้นเพื่อจักรยานโดยเฉพาะ ความเชี่ยวชาญของ Schwalbe เป็นแบรนด์ยางจักรยานที่นิยมที่สุดแบรนด์หนึ่งในแถบยุโรปและเอเชีย Schwalbe นั้นมุ่งมั่นที่จะทำยางจักรยานออกมาให้มีความครบเครื่องในทุกด้านเพื่อการใช้งานที่ดี และมีทีมวิศวกรที่คลั่งไคล้ในจักรยานที่จะสร้างผลิตภัณฑ์และทดสอบอย่างหนักเพื่อให้ยางมีคุณภาพสูงสุด

สำนักงานใหญ่ของ Schwalbe นั้นเป็นตึกที่ได้ชื่อว่าเป็น Hybrid Building ที่ภายในอาคารจะใช้วัสดุที่มาจาก Recycle ถึง 98% และมีพื้นที่สีเขียวในอาคารที่เยอะเพื่อลดความร้อนในช่วงฤดูร้อน ในขณะที่คอนกรีตและเหล็ก 100 เปอร์เซ็นต์ในอาคารสามารถนํากลับมาใช้ใหม่ได้ในอนาคต

เราข้ามส่วนของ Office เข้ามาที่ Schwalbe Brand World กันเลยครับ ส่วนแรกเข้ามาก็จะเจอกับ Schwalbe Journey ที่เป็นเรื่องราวของ Schwalbe ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1922 ที่เริ่มต้นจากเมือง Oberberg ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากยางจักรยาน แต่เป็นการขายอะไหล่จักรยานจากเยอรมันไปสู่เอเชียนั่นเอง

ถัดมาก็จะเจอกับมุมของ Creating the Marathon ยางรุ่นแรกที่ Schwalbe ได้ผลิตขึ้นนั่นเอง และนั่นรถจักรยานอะไรน่ะ >>

คันนี้นี่เอง รถคันนี้เป็นของคนที่ชื่อว่า Wolfgang Reiches ที่เขาใช้จักรยานคันนี้ปั่นไปทั่วโลกเป็นระยะทางกว่า 73,000 กิโลเมตร

ด้วยยาง Schwalbe Marathon HS136 คู่นี้ ขนาด 28×1.75 ที่เป็นยางแบบ All Season ที่มีความทนทานสูง

ใช้ชุดขับเคลื่อน Shimano 600 1975 ด้วย เปรียบเสมือน Shimano Ultegra ในสมัยนี้นั่นเอง

นี่ก็เป็นซีรี่ส์ต่างๆของยาง Marathon ที่เป็นยางที่โดดเด่นที่สุดของ Schwalbe เลยก็ว่าได้ ที่เป็นที่นิยมของนักเดินทางทั่วโลก

โครงสร้างของยาง Marathon ที่มีชั้นกันหนามที่หนากว่ายางอื่นๆ ที่ทำให้ยาง Marathon ได้ชื่อว่าเป็นยาง Unplattbar หรือไม่แบนนั่นเอง

ถัดมาก็จะเป็น Schwalbe Milestone หรือช่วงสำคัญๆที่เกิดยางแต่ละรุ่นของ Schwalbe

Schwalbe นั้นนำแหล่งวัตถุดิบของยางจากประเทศอินโดนีเซียที่ Schwalbe นั้นได้ตั้งองกรณ์ที่จะรับซื้อยางจากชาวสวนโดยตรงเพื่อให้ได้ราคายางที่ดีที่สุด และโรงงานนั้นก็อยู่ห่างจากสวนยางเพียง 150กม เพื่อให้วัตถุดิบนั้นเข้าถึงโรงงานได้อย่างรวดเร็วที่สุด

และ Schwalbe นั้นก็ยังมีโรงงานที่ตั้งอยู่ที่ประเทศเวียดนามอีกด้วย

ส่วนต่อมาก็จะเป็นส่วนที่จัดแสดงเครื่องมือ วัสดุต่างๆ เพื่อให้ความรู้ เครื่องกลมๆที่เห็นอยู่ก็คือเครื่องที่ไว้ขึ้นดอกยางนั่นเอง

ส่วนผสมต่างๆของ Compound ที่ทำให้ยางนั้นมีความทนทาน การป้องกัน และสีของยางด้วย

อันนี้คือ Rubber Skins เป็นส่วนผสมของยางที่นำมาผสมรวมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อันนี้เป็นห้อนยางธรรมชาติ หรือ Natural Rubber นั่นเองเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของยาง Schwalbe ที่ให้ทั้งความยืดหยุ่นและมั่นใจในเรื่องการสึกหรอที่ต่ำ

ยางสังเคราะห์ อย่างไรก็ตามยางสังเคราะห์ก็ยังเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่จะเพิ่มในเรื่องคาแลคเตอร์ของยาง ความทนทานที่เพิ่มขึ้นของยางในทุกๆเส้น

อันนี้ก็จะเป็นตัวอย่าง Mould ของยางรุ่น Magic Mary ที่จะไว้ขึ้นดอกยางของรุ่นนี้โดยเฉพาะนั่นเอง

ภายใน Schwalbe Brand World ก็จัดแสดงยางในแต่ละ Categories ได้อย่างสวยงาม

ยาง Schwalbe Road รุ่นสูงสุดอย่าง Pro One Aero / Pro One / One

ยาง MTB RACE

ยาง Schwalbe MTB ที่มีหลากหลายรุ่น และการใช้งานที่ต่างกัน

Schwalbe นั้นมีห้อง Lab เป็นของตัวเองที่จะใช้ในการทดสอบยางทุกรุ่นอย่างหนักและต้องผ่านเกณฑ์ในเรื่องความทนทาน การป้องกัน หรือค่า Rolling Resistance ต่างๆ ที่ทีมวิศวกรได้ทำงานร่วมกับ Product Manager เพื่อให้ยางนั้นมีคุณภาพสูงสุด

อีกหนึ่งอย่างที่เป็นแบรนด์ยางจักรยานเดียวที่ทำคือเรื่องของการทำ Recycling System ที่ Schwalbe นั้นจะตั้งตู้ใส่ยางเก่าจากร้านจักรยานต่างๆในแถบประเทศยุโรป เพื่อนำยางที่หมดสภาพแล้วนำไป Recycle เป็นวัสดุอื่นๆต่อไปที่จะสร้างประโยชน์ได้

สมกับการเป็น Hybrid Building และ sustainable work space มากๆ

Workshop Area ที่สวยมากๆ ที่มีไว้ให้กับพนักงานโดยเฉพาะสำหรับพนักงานที่ปั่นจักรยานมาทำงานก็สามารถนำรถมา Service ด้วยตัวเอง หรือทีมช่างของ Schwalbe ได้

อย่างที่ได้เล่าไปในภาพแรก ภายในของอาคารนั้นเป็นวัสดุ Recycle ซะส่วนมาก และก็ sustainable architecture ที่สวยมากๆเลย

ภายในอาคารก็ยังมีพ้นที่สีเขียวที่มองแล้วสดชื่นที่สุด

บนหลังคาก็เป็นที่นั่งพักหรือใครจะมีวิ่งออกกำลังกายก็ไม่เลว

ปิดท้ายด้วย “The Perfect tire for every bicycle” ไม่ว่าคุณจะปั่นจักรยานประเภทไหน เป็นนักปั่นระดับไหน Schwalbe สามารถตอบโจทย์คุณในทุกการปั่นจักรยาน

เพราะเราคือนักปั่นจักรยานเหมือนกับคุณ เรารู้ในสิ่งที่คุณต้องการและอยากจะให้เป็น

WE ARE SCHWALBE

พาชม “Schwalbe Brand World”2024-08-08T14:02:18+07:00

ALL NEW RC703 มีอะไรใหม่บ้าง ไปดู!!!

รองเท้า RC703 เป็นรองเท้า Road Racing ระดับแข่งขันที่ใส่สบายที่สุดก็ว่าได้ วันนี้เราจะพาไปดูว่า RC703 นั้นพัฒนาในจุดไหนบ้าง เป็นรองเท้าตัวหนึ่งที่คุ้มค่ากับราคามากที่สุด

รองเท้า RC7 เป็นรองเท้า Range ระดับแข่งขันที่เป็นรุ่นรองจาก RC9 ซึ่งจุดเด่นของ RC7 นั้นคือเป็นรองเท้าระดับแข่งขันที่ใส่สบาย ให้ Performance ที่ดี
รองเท้า RC703 ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี S-PHYRE fit DNA จากรองเท้าระดับโปรของ SHIMANO อย่าง S-PHYRE RC903

วัสดุภายนอก

ตัว RC703 และ RC702 จะใช้วัสดุหนังสังเคราะห์ที่น้ำหนักเบาเดียวกัน แต่ความรู้สึกในการสัมผัสพื้นผิว ของ RC703 จะดูดีขึ้น และถ้าได้มอง Detail ลึกไปอีกจะมีในส่วนของชั้นตาข่ายชั้นในอีกชั้นเชื่อมกับวัสดุหนังทำให้ความรู้สึกที่ดีขึ้นเวลาสวมใส่ด้วย และช่วยในเรื่องการระบายอากาศที่มากขึ้นด้วย

ระบบปรับกระชับ

RC703 ได้อัพเดทรูปแบบการปรับกระชับของสาย BOA ใหม่ ให้รองเท้าส่วนหน้ากระชับมากขึ้น และมีความแอโรไดนามิคมากขึ้น ด้วยสายรูปแบบครอสโอเวอร์ที่ถอดแบบมาจากรองเท้ารุ่นท๊อปอย่าง S-PHYRE RC903 ให้การส่งกำลังที่ยอดเยี่ยม และให้ความรู้สึกที่สบายและ ให้รองเท้าโอบรัดเท้าเสมือนว่าเป็นหนึ่งเดียว

น้ำหนัก และ Performance

ตัว RC703 จะใช้พื้น Full Carbonความสติฟ 10/12 ซึ่งแอดได้ลองปั่นทางไกล ได้ออกแรงเต็มที่ทั้งขึ้นเนิน สปิ้น ความรู้สึกคือมันสติฟ แต่เป็นความรู้สึกสติฟที่มันสบายเท้าทั้งสองรุ่น คือด้วยวัสดุของรองเท้าที่มันเป็นหนังไม่ได้บางมันเลยทำให้สบาย
ส่วนในเรื่องของน้ำหนัก ตัว RC702 จะมีน้ำหนักเพียง 255g และทาง shimano ได้มีการอัพเดท ให้ตัวรองเท้า RC703 เบาลง น้ำหนักเพียง 244g ซึ่งลดลงมาถึง 11g ก็ถือว่าเบาเลยสำหรับ Performance ของ RC703 นั้นแอดจะให้ 9 จากคะแนนเต็ม 10

ราคารองเท้า RC703 – 8,000 บาท
สีผู้ชาย : ขาว , ดำ , เขียว
รูปแบบรองเท้า : หน้ากว้าง (Wide type)
ขนาด 38-48
สีผู้หญิง : ขาว ,ดำ
ขนาด 36 – 40
สนใจติดต่อได้ที่ : hahhong.com/dealer

ALL NEW RC703 มีอะไรใหม่บ้าง ไปดู!!!2024-07-09T16:42:35+07:00

เปิดตัวใหม่ NEW SHIMANO GRX Di2 RX825 2×12 SPEED

ยกระดับไปสู่อีกขั้นของการปั่นจักรยานแนว Gravel ด้วยชุดขับเคลื่อน Shimano GRX RX825 Di2 2 x12 Speed ที่มาพร้อมกับการเข้าเกียร์ที่รวดเร็วแม่นยำมากยิ่งขึ้นเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส และยังมีฟีดเจอร์ใหม่ๆที่เพิ่มเติมเข้ามา เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลายหลาก พร้อมในทุกการผจญภัย !

– มือเกียร์ GRX ST-RX825 Di2

ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความ Ergonomic เพิ่มมากขึ้น รองรับกับ Flared Handlebar เช่น PRO Discover ที่ตรงส่วนปลาย Droped กางออกได้อย่างลงตัว ตัว Hoods สามารถจับได้กระชับมือไม่ลื่นไถล ด้วยแถบ Ribbed Surface Texture ไม่ว่าจะใช้งานบนทางเรียบหรือทางลูกรังที่มีการสั่นสะเทือนสูง และฟีดเจอร์ใหม่ Gravel Switch Poisiton อย่างปุ่ม Front Shift Next ที่อยู่ตรงส่วนบนของ Hoods ที่สามารถปรับแต่งการใช้งานได้ดั่งใจผ่าน App E-Tube อีกทั้งยังรองรับการใช้งานสวิทช์เสริมรุ่นใหม่ อย่าง SW-RS801-E และ SW-RS801-T เพื่อรองรับกับการใช้งานในรูปแบบต่างๆนั่นเอง

– สับจาน GRX FD-RX825 Di2

ได้รับการออกแบบให้มีความแข็งแรงเพื่อการใช้งานหนักในเส้นทางที่มีความหลากหลาย รองรับการใช้งานระบบ Shimano Synchronized Shift ช่วยให้การเข้าเกียร์ทำงานได้อย่างต่อเนื่องและแม่นยำ โดยมีช่วงความกว้างของเกียร์ถึง 17T ด้วยกัน และตัวสับจานจะมีระยะ Chain line ที่เพิ่มขึ้น 2.5 mm. เพื่อรองรับกับหน้ายาง Gravel ที่มีขนาดตั้งแต่ 700x35C ไปจนถึง 700x45C+ เลยทีเดียว

– ตีนผี GRX RD-RX825 Di2

ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมด้วยโครงสร้างแบบ Shimano Shadow RD+ ในดีไซน์ที่เรียบหรู ดูบึกบึนแข็งแรง พร้อมการสั่งงานด้วยระบบไร้สายด้วย Integrated Wireless Unit ที่รวดเร็วและแม่นยำ เสริมด้วยสวิทช์ ON/OFF ป้องกันโซ่ตก ช่วยให้การเข้าเกียร์เป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่สะดุดแม้อยู่ในเส้นทางที่มีความสมบุกสมบั่น โดยตีนผี RD-RX825 Di2 จะรองรับขนาดเฟืองตั้งแต่ 11-34T ถึง 11-36T

– Gravel Crankset (2×12 Speed)

ชุดจานหน้าแบบสองใบ (2×12) ออกแบบโดยผสมผสานประสิทธิภาพและความแข็งแรง มีความ Stiff สูง น้ำหนักเบา ด้วยโครงสร้างแบบ Hollowtech II โปรไฟล์ของใบจานที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองรูปแบบการใช้งานที่ต้องการช่วงเกียร์ที่มีความกระชับมากยิ่งขึ้นเพื่อรักษารอบขาให้คงที่ในเส้นทางลูกรังที่ขุขระ และยังมีตัวเลือกอัตตราทดเกียร์ของใบจานหน้าที่กว้างถึง 17T รองรับการใช้งานในสภาพเส้นทางที่มีความหลากหลายทั้งทางราบและทางลาดชัน

โดยชุดจาน FC-RX820-2 จะมีขนาดใบจานที่ 48/31T มีขนาดความยาวของขาจานให้เลือก 3 ขนาด ตั้งแต่ 170 172.5 175mm. ใช้งานร่วมกับเฟือง 12 สปีดของเสือหมอบ ขนาด 11-34T และ 11-36T

– CASSETTE SPROCKET (2×12 Speed) ROAD

เฟืองหลัง 12 SPEED จัดเรนจ์เกียร์มาให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งกลุ่มเฟืองใบเล็กที่เรียงกันถี่และละเอียด จึงปั่นทางราบได้ลื่นไหล รอบขาไม่วืดเมื่อเปลี่ยนเกียร์ และกลุ่มเฟืองใบใหญ่ที่มีขนาดเกียร์เพียงพอให้ใช้ไต่เขาได้ลูกเลยทีเดียว รองรับการใช้งานร่วมกับโม่ล้อทั้ง 11 SPEED และ 12 SPEED มี 2 ขนาดให้เลือกใช้

CS-R7100 11-34T : 11-12-13-14-15-17-19-21-24-27-30-34T
CS-HG710 11-36T : 11-12-13-14-15-17-19-21-24-28-32-36T

ชุดขับเคลื่อน GRX Di2 2×12 Speed และพบกันเร็วๆนี้

เปิดตัวใหม่ NEW SHIMANO GRX Di2 RX825 2×12 SPEED2024-05-31T14:44:56+07:00

เปิดตัวสินค้าใหม่ New 2024 Bryton Rider Series

BRYTON เป็นแบรนด์ที่มีการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณท์มาอย่างต่อเนื่อง เพรียบพร้อมไปด้วยฟีเจอร์การใช้งานที่ครอบคลุมกับทุกสไตล์การปั่นจักรยาน พร้อมด้วย Application อย่าง Bryton Active ที่ใช้งานได้สะดวก และมีการเชื่อมต่อรวดเร็วฉับไว

โดยทางเราได้จัด LINE-UP สินค้าไว้ดังนี้

Rider S500:

โดดเด่นด้วยการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวและกะทัดรัด เหมาะสําหรับนักปั่นสาย Performance ที่ชื่นชอบการฝึกซ้อมและแข่งขันเป็นชีวิตจิตใจ หน้าจอสี Touchscreen แบบ TFT LCD ขนาด 2.4 นิ้ว รองรับการใช้งานสูงสุด 24 ชั่วโมง มาพร้อมฟีเจอร์ที่สนับสนุนการฝึกซ้อมอย่าง Advanced Workout , Indoor Smart Trainer , Smart Workout เสริมด้วยฟีเจอร์สำหรับนำทางอย่าง Turn-By-Turn Navigation และอื่นๆอีกมากมาย

ราคา Bundle Set (พร้อมสปีดเซนเซอร์ + วัดรอบขา + หัวใจ) : 12,800 บาท

ราคาตัวเครื่อง : 9,950 บาท

Rider 750SE :

ที่สุดของไมล์ที่เหมาะสำหรับนักปั่นสาย Advanture ที่ต้องการไมล์ที่อึดและมีฟีเจอร์ที่อัดแน่น คุ้มค่า ด้วยหน้าจอ Touchscreen แบบ TFT LCD ขนาด 2.8 นิ้ว สีสรรสดใส รองรับการใช้งานได้ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง มาพร้อมกับฟีเจอร์ Navigation นำทางที่มีความโดดเด่น ละเอียดแม่นยำ ที่แสดงผลแบบ Real-time ไม่มีหลง และฟีเจอร์เด่นๆอย่าง Virtual Ride , Group Chat , Group Ride และอื่นๆอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นตัวจบครบเครื่องกันเลยทีเดียว

ราคาตัวเครื่อง : 8,450 บาท

Rider 460 :

ยกระดับประสบการณ์การปั่นจักรยาน ด้วย หน้าจอ LCD ขนาด 2.6 นิ้ว พร้อม Graphic User Interface แบบใหม่ที่ได้รับการปรับปรุง ทําให้การแสดงผลสดใสและใช้งานง่ายมากยิ่งขึ้น สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 32 ชั่วโมง เสริมด้วยฟีเจอร์ที่อัดแน่นอย่าง Climb Challenge , Group Ride and Live Track , Smart Trainer Workout และฟีเจอร์อื่นๆอีกมากมาย นับเป็นไมล์ GPS อีกรุ่นที่คุ้มค่ามากที่สุด

ราคา Bundle Set (พร้อมวัดรอบขา + หัวใจ) : 7,100 บาท

ราคาตัวเครื่อง : 4,850 บาท

Rider 15 Neo :

ไมล์รุ่นเริ่มต้น กับหน้าจอ LCD ขนาด 2 นิ้ว ที่มาพร้อม 21 ฟีเจอร์การใช้งาน เช่น Distance , Speed , Cadence , HR เป็นต้น ตอบโจทย์สำหรับนักปั่นมือใหม่ที่ต้องการใช้งานไมล์ GPS ที่มีความสะดวกและใช้งานง่ายเพียง Click & Go !

ราคา Bundle Set (เซนเซอร์รอบขา) : 2,800 บาท

ราคาตัวเครื่อง : 2,200 บาท

GARDIA R300L 2024

ขอแนะนำ นวัฒกรรมแห่งความปลอดภัย ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจขึ้นเป็นสองเท่า กับ Bryton GARDIA R300L ไฟท้าย & เรดาร์มองหลัง ที่จะช่วยปกป้องคุณในทุกกิจกรรมการปั่นจักรยาน เปรียบเสมือนว่ามีตาหลัง GARDIA R300L สามารถตรวจจับยานพาหนะที่เข้าใกล้จากด้านหลังได้ที่ระยะสูงสุดถึง 190 เมตร เมื่อมียานพาหนะเข้ามาใกล้เรดาร์จะส่งสัญญาณแสดงผลแจ้งเตือนขึ้นบนหน้าจอเรือนไมล์แบบเรียลไทม์ทันที นอกเหนือจากการแจ้งเตือนบนหน้าจอไมล์ แล้ว Bryton GARDIA R300L มีฟีเจอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดความสว่างของไฟท้ายได้โดยอัตโนมัติ พร้อมกับมีฟีเจอร์อย่าง Brake Detection ที่จะช่วยแจ้งเตือนยานพาหนะที่กําลังจะมาถึงด้วยมุมมองที่กว้างถึง 220 องศา

ข้อมูลเสริม

– กันน้ำระดับ IPX7

– เชื่อมต่อผ่านสัญญาณ ANT+/Bluetooth

– มี 5 โหมดความสว่าง

– อายุแบตฯสูงสุด 17 ชม.

– น้ำหนัก 66 กรัม

– สามารถยึดกับหลักอานได้ทุกรูปแบบ

– รุ่นที่รองรับ 460/750SE/S500 และอื่นๆ

– เชื่อมต่อผ่าน Application Bryton Gardia App * ปรับแต่ง & อัพเฟิร์มแวร์

ราคา : 4,650 บาท

และสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ทางเราได้ทำวิดีโอแนะนำตัวสินค้าเอาไว้แล้วที่ https://www.youtube.com/watch?v=Y_wvPhcGuaM

สามารถเชิญชมกันได้เลยครับ

เปิดตัวสินค้าใหม่ New 2024 Bryton Rider Series2024-04-18T16:40:12+07:00

อัพเดทไลน์อัพและราคารองเท้าปั่นสาย XC จาก SHIMANO

  • SHIMANO XC902 ราคา 11,800 บาท
  • SHIMANO XC702 ราคา 6,700 บาท
  • SHIMANO XC502 ราคา 4,800 บาท
  • SHIMANO XC300 ราคา 3,400 บาท

*ราคา ณ เดือนกรกฎาคม 2565

สนใจสินค้า ติดต่อเข้ารับบริการวัดไซส์และสั่งซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
hahhong.com/dealer/

#imwithshimano #imwithshimanoSEA #RideShimano #RideShimanoSEA #allfortheride #allfortherideSEA

อัพเดทไลน์อัพและราคารองเท้าปั่นสาย XC จาก SHIMANO2022-07-14T14:21:01+07:00

อัพเดทไลน์อัพและราคารองเท้าปั่นสาย ROAD จาก SHIMANO

  • SHIMANO RC702 ราคา 6,700 บาท
  • SHIMANO RC502 ราคา 4,700 บาท
  • SHIMANO RC300 ราคา 3,400 บาท

*ราคา ณ เดือนกรกฎาคม 2565

สนใจสินค้า ติดต่อเข้ารับบริการวัดไซส์และสั่งซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
hahhong.com/dealer/

#imwithshimano #imwithshimanoSEA #RideShimano #RideShimanoSEA #allfortheride #allfortherideSEA

อัพเดทไลน์อัพและราคารองเท้าปั่นสาย ROAD จาก SHIMANO2022-07-14T14:20:52+07:00

ตามรอยเท้าแมวดำ ไปรู้จักกับ CATEYE

ใครที่อยู่ในวงการจักรยานมานานคงพอคุ้นหูแบรนด์จากญี่ปุ่นที่ชื่อ “ CATEYE ” กันบ้าง ถึงจะไม่ได้ผลิตเฟรมหรืออะไหล่ แต่ CATEYE ก็ผลิตอุปกรณ์สำคัญอย่างไฟจักรยานและไมล์ โดยเฉพาะไฟจักรยานที่นักปั่นทุกคนควรมีติดรถไว้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ เป็นสินค้าของถนัดของ CATEYE ที่อัดแน่นไว้ด้วยคุณภาพภายใต้ความเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น แต่หากใครหลงลืมหรือยังไม่รู้จักเจ้าแมวดำ MADE IN JAPAN ตัวนี้ วันนี้เราจะชวนให้ตามรอยเท้าไปรู้จัก CATEYE กัน

#TrustTheCat #CatEye

ตาของแมวสามารถมองเห็นในที่มืดได้ดีกว่ามนุษย์ ซึ่ง CATEYE สามารถช่วยคุณได้ในจุดนี้ เพราะเจ้าแมวดำผลิตไฟจักรยานออกมาหลากหลายรุ่น ทั้งแบบที่มีความสว่างไม่มาก เหมาะสำหรับใช้เป็น Safety light ตอนกลางวัน ไปจนถึงไฟที่สว่างสุดๆ พร้อมให้คุณลุยไปได้แม้รอบด้านจะไม่มีแสงสว่างเลย แล้ว CATEYE ยังเป็นเจ้าแรกๆที่นำหลอด LED เข้ามาใช้ในไฟจักรยาน ซึ่งทำให้ได้ไฟที่สว่างมากขึ้น และสว่างคงที่มากกว่าเดิมอีกด้วย นอกจากนี้ CATEYE ยังฟังเสียงของผู้ใช้งานอยู่เสมอ โดยผลิตไฟออกมาหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ปั่น ไม่ใช่เฉพาะไฟหน้าเท่านั้น แต่ยังมีไฟท้ายและไฟจุดสังเกตให้เลือกใช้เยอะมากๆ ทั้งไฟกะพริบ ไฟแบบใส่ถ่าน ไฟที่ออกแบบมาให้น้ำหนักเบา ฯลฯ เรียกได้ว่ามีทุกราคาและทุกรูปแบบ ช่วยเสริมความปลอดภัยให้คุณได้ในทุกเส้นทาง

นอกจากไฟแล้ว CATEYE ยังมีคอมพิวเตอร์ หรือไมล์จักรยาน ที่มีจุดเด่นเรื่องใช้งานง่ายและแม่นยำ ตามคอนเซปต์ Easy-to-use, Easy-to-read ดีไซน์มาในหลายระดับตั้งแต่ปั่นใช้งานทั่วไป จนถึงปั่นแข่งขัน และไมล์ของ CATEYE ยังคว้ารางวัล Good Design Award มาได้หลายรุ่นในหลายๆปีเลยทีเดียว

เคยได้ยินกันบ้างไหมว่าแมวมี 9 ชีวิต? เจ้าแมวดำของเราเองก็เช่นกัน เพราะ CATEYE ตกพื้นแล้วไม่ตาย! นอกจากมาตรฐานการผลิตที่สูงสมความเข้มงวดของแดนอาทิตย์อุทัย ทำให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสูงแล้ว CATEYE ยังทำการทดสอบผลิตภัณฑ์อย่างหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นทดสอบกันกระแทก กันน้ำ และความทนทานต่อสภาพอากาศทั้งในอุณหภูมิร้อนจัดและเย็นจัด ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนได้ออกมาเป็นเจ้าแมวที่อึดถึกทนอย่างมาก แม้ว่าทำตกพื้นก็ยังใช้งานต่อได้เลย

เจ้าแมวดำของเราไม่ได้มีดีแค่ความอึดเท่านั้น แต่ CATEYE ยังสั่งสมองค์ความรู้และเทคโนโลยีมากมายตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทเมื่อเกือบ 70 ปีก่อนในปี 1954 จากบริษัทเล็กๆในโอซาก้าประเทศญี่ปุ่น จนก้าวขึ้นไปยืนอยู่แถวหน้าของวงการ และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากนักปั่นทั่วโลก พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ จนเป็นที่ยอมรับในเรื่องการผลิตเลนส์และ Reflector รวมถึงความเสถียรของไมล์และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เรียกว่าเป็นคุณปู่แมวที่ทั้งฉลาดและแข็งแรงเลยทีเดียว

นักปั่นท่านไหนกำลังมองหาไฟจักรยานหรือไมล์ที่ทำงานได้ดี ลองรับเจ้าแมวดำ CATEYE ไปเลี้ยงดูสักตัว ค่าตัวไม่แพง มีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยไปจนถึงหลักหลายพันบาท ให้คุณได้เลือกซื้อตามงบและความต้องการ  นอกจากได้อุปกรณ์มีแบรนด์มีมาตรฐาน และมีคุณภาพคุ้มค่าคุ้มราคาที่จะทำให้คุณประทับใจแล้ว ที่ญี่ปุ่นยังมีความเชื่อว่าแมวดำเป็นสัญลักษณ์ของความ “โชคดี” อีกด้วยนะ!

สนใจซื้อสินค้าติดต่อตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

https://hahhong.com/dealer/

ตามรอยเท้าแมวดำ ไปรู้จักกับ CATEYE2021-04-21T14:36:25+07:00

Shimano S-PHYRE eyewear 2021

มีการพัฒนาในเรื่องวัสดุและคุณภาพของเลนส์ให้มีความคมชัดยิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี Ridescape สำหรับแว่นตาของ Shimano รุ่น Top แบ่งเป็นรุ่น S-Phyre R และ S-Phyre X ส่วนรุ่นอื่นๆจะอยู่ในซีรี่ส์ Shimano eyewear

เทคโนโลยี Ridescape คือเลนส์แว่นที่ทำให้ตาเรามองเห็นสีเข้มขึ้น รายละเอียดบนถนนชัดเจนขึ้น เส้นถนนจะมีความชัดเจน ลดภาพมัว ช่วยให้การปั่นมีประสิทธิภาพ เพิ่มความมั่นใจขึ้น เลนส์ Ridescape ทั้งหมดเปลี่ยนมาใช้วัสดุ Polyamide แทนวัสดุ Polycarbonate ทำให้น้ำหนักลดลงไป 16.4% เมื่อเทียบกับตัว S-Phyre R รุ่นก่อน

โดยเลนส์ Ridescape แบ่งเป็น 5 ประเภท ซึ่งมีการออกแบบให้ตรงตามสภาพแวดล้อมที่เราปั่น

  • Ridescpae ES (Extra sunny)
    ตัวนี้เหมาะกับการปั่นบนท้องถนน ที่มีสภาพอากาศที่แดดจ้า ตัวเลนส์มีคุณสมบัติกรองแสงที่ผ่านเข้ามาได้แค่ 13%
  • Ridescape RD (All around road)
    ตัวนี้เหมาะสำหรับการปั่นบนท้องถนนทั่วไป ตัวเลนส์ออกแบบมาเพื่อช่วยกรองแสงรบกวนที่กระทบกับพื้นถนน สามารถมองเห็นเส้นถนนหรือสิ่งกีดขวางที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและการเปลี่ยนแปลงของถนนได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
  • Ridescape OR (Off-road)
    เป็นเลนส์ที่เหมาะกับการปั่น off-road / trail ตัวเลนส์ออกแบบมาสำหรับการมองที่หลากหลาย แต่เลนส์จะกรองแสงน้อยกว่า Road เนื่องจากการปั่นในป่า บางช่วงมีแสงน้อยตัวเลนส์จึงปรับให้สามารถมองเห็นใบไม้ รากไม้ กิ่งไม้ได้ชัดขึ้น
  • Ridescape GR (Open off-road)
    ถูกออกแบบมาสำหรับพื้นผิวที่หลากหลาย เลนส์นี้เหมาะกับการปั่น Adventure หรือการปั่นทัวริ่ง
  • Ridesape CL (Cloudy)
    เหมาะกับการปั่นวันที่มีเมฆมากหรือฝนตกและการปั่นในเวลากลางคืน ตัวเลนส์ช่วยเพิ่มการมองเห็นในสภาพแสงน้อย โดยการปรับอัตราการส่องผ่านของแสงที่มองเห็นได้ 80% และตัวเลนส์ยังมีการเคลือบสารที่ช่วยกันแสงจ้าจากไฟหน้ารถได้อีกด้วย

S-PHYRE R และ S-PHYRE X เป็น 2 รุ่น Top ทั้งคู่ มีคุณสมบัติเหมือนกัน ตัวเลนส์จะมีการเคลือบสาร กันแสงสะท้อน กันรอยขีดข่วน เคลือบผิวกันน้ำและฝุ่นเกาะเลนส์ แตกต่างกันตรงเป็นแว่นไร้ขอบและมีขอบ

S-PHYRE R

เหมาะสำหรับคนที่ชอบแว่นไร้ขอบ ตัวแว่นที่ไม่มีขอบจะช่วยให้มองเห็นชัดเจนขึ้น และตัวเลนส์มีความ Aerodynamic มีน้ำหนักเบา เพียง 23.7 กรัม และเลนส์ PH (Photochromic) 25.9 กรัม ตัววัสดุมีความเหนียวและยืดหยุ่นสูง มีเลนส์ให้เลือกทั้ง Ridescape Road และเลนส์ปรับแสงอัติโนมัติ Photochromic นอกจากนี้ยังมี Nose pads ที่เปลี่ยนได้ทั้งขนาดใหญ่และเล็ก พร้อมกับเลนส์สำรองรุ่น Ridescape CL ไว้สำหรับปั่นกลางคืนมาให้ในกล่อง

ราคา 5,550 บาท ( สี Silver และ Red )
ราคา 5,000 บาท ( สี Black และเลนส์ Photochromic )

S-PHYRE X

รุ่นนี้ออกแบบให้ใช้ได้ทั้ง Road และ MTB  ตัวเฟรมเป็นแบบ half lens design ตัวขอบข้างล่างสามารถถอดออกได้ และมีขอบให้เปลี่ยนถึง 5 สี มีน้ำหนัก 26.3 กรัม ตัวเลนส์ PH (Photochromic) 28.6 กรัม มีทั้งเลนส์ Road / Off Road และPhotochromic โดยแบ่งเป็น

  • S-PHYRE X, Black, เลนส์ปรับแสง Photochromic
  • S-PHYRE X, White, เลนส์ Photochromic
  • S-PHYRE X, Black, เลนส์ Ridescape road
  • S-PHYRE X, Black, เลนส์ Ridescape off-road
  • S-PHYRE X, White, เลนส์ Ridescape road
  • S-PHYRE X, Red, เลนส์ Ridescape road
  • S-PHYRE X, Blue, เลนส์ Ridescape off-road

นอกจากนี้มี Nose pads สำรอง เฟรมด้านล่างแบบ Half frame ( มี 4 สี ) และเลนส์กลางคืน Ridescape CL มาพร้อมในกล่อง

ราคา 5,550 บาท

Shimano S-PHYRE eyewear 20212021-03-17T10:23:58+07:00

Shimano Eyewear 2021

แว่นตา Shimano Eyewear 2021 ใช้เทคโนโลยีเลนส์ Ridescape เหมือนกับแว่นรุ่น S-PHYRE แตกต่างกันตรงสารเคลือบเลนส์

Aerolite Panorama

แว่นรุ่นนี้เป็นแบบไร้ขอบ เลนส์ขนาดใหญ่ ทำให้การมองเห็นกว้างและชัดเจน ตัวแว่นมีน้ำหนักเบาเพียง 23.4 กรัม ซึ่งเป็นรุ่นที่เบาที่สุดและมีความ Aerodynamic สูง ตัวเลนส์เป็น Ridescape Road เคลือบสารกันรอยและลดการเกาะของน้ำ แว่นรุ่นนี้ไม่มีเลนส์สำรองมาให้

ราคา 3,500 บาท

Equinox

แว่นรุ่นนี้ใช้งานได้หลากหลาย มาพร้อมเลนส์ Ridescape ทั้ง Road / Off-road และPhotochromicใช้วัสดุเฟรมแบบเดียวกับรุ่น S-Phyre คือ TR90 ทำให้การสวมใส่สบาย มีความคมชัด อีกทั้งยังกันลมได้ดี ตัวเลนส์ใส PC clear เคลือบสารกันรอยขีดข่วนและลดการเกาะของน้ำ ในกล่องยังมี Nose pads มาให้เปลี่ยน

แว่นรุ่น Equinox มีหลายสีให้เลือก

  • Equinox, สีดำด้านเลนส์ Photochromic
  • Equinox, สีดำด้านเลนส์ Ridescape road
  • Equinox, สีขาวเลนส์ Ridescape road
  • Equinox, สีแดงเลนส์ Ridescape road
  • Equinox, สีฟ้าเลนส์ Ridescape off-road

ราคา 3,500 บาท

Aerolite

แว่นรุ่นนี้เป็นแบบไร้ขอบ น้ำหนักเบา และใช้วัสดุเฟรม TR90 ทำให้สวมใส่สบาย สามารถปรับ Nose pads และขาแว่นให้กระชับกับรูปหน้าได้ ตัวเลนส์เป็นแบบ Mirror lens สามารถกรองแสง UV400 ได้อย่างดี อีกทั้งยังเคลือบสารกันรอยขีดข่วนและลดการเกาะของน้ำ นอกจากนั้นยังมี Nose pads อีกขนาดมาให้เปลี่ยนในกล่อง เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานแบบหลากหลาย

ราคา 1,950 บาท

Shimano Eyewear 20212021-03-16T15:21:39+07:00

Title

Go to Top