นักปั่นทุกท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าหมวกจักรยานเป็นไอเท็มที่ขาดไปไม่ได้ในทุกการออกปั่น เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยปกป้องศีรษะของเราหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา แน่นอนว่า LAZER ให้ความสำคัญกับการพัฒนาหมวกจักรยานให้มีความปลอดภัยมากที่สุดเป็นอันดับแรก แต่เราไม่ได้พึงพอใจแค่นั้น LAZER ยังมีปณิธานที่จะช่วยให้นักปั่นสามารถสนุกสนานไปกับการปั่นได้อย่างปลอดภัย จากการสวมใส่หมวกที่ทำให้รู้สึกสบาย

เราจึงทำการทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเกิดเป็นเทคโนโลยีใหม่ในชื่อ KINETICORE ที่บาลานซ์ทั้งความปลอดภัยและความสบายได้อย่างลงตัว ภายใต้คอนเซปต์ BETTER BY DESIGN ที่เล่าแบบง่ายๆก็คือการออกแบบโฟมภายในหมวกใหม่ ให้สามารถปกป้องศีรษะจากแรงกระแทกได้มากขึ้น ระบายอากาศได้ดีขึ้น น้ำหนักเบาลง แล้วยังลดการใช้พลาสติกลง จึงเป็นมิตรต่อโลกอีกด้วย

KINETICORE น่าสนใจอย่างไร เราไปทำความรู้จักพร้อมๆกันเลย

#LazerSportSEA #UseYourHead #allfortherideSEA

ปกป้องจากแรงกระแทก

LAZER ออกแบบ KINETICORE โดยได้ไอเดียมาจาก Crumple Zone ในรถยนต์ คือการเผื่อพื้นที่เสมือนกันชนให้คอยรับแรงกระแทกและยุบตัวไปเพื่อสลายแรงให้ได้มากที่สุดก่อนจะมาถึงห้องโดยสาร โดยนำเอามาใส่ไว้ภายในหมวกจักรยานเป็น Controlled Crumple Zones คือแพทเทิร์นของโฟมภายในหมวกที่พร้อมจะรับแรงกระแทกไม่ว่าจากมุมตรงหรือแนวทแยง แล้วยุบตัวลงไปเพื่อสลายแรงไม่ให้มากระทบถึงศีรษะของนักปั่นนั่นเอง โดยเทคโนโลยี KINETICORE นี้คือการเปลี่ยนดีไซน์ของโฟมภายในหมวก จึงเป็นชิ้นเดียวกับหมวก ไม่จำเป็นต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเติม

ระบายอากาศดี

KINETICORE นอกจากมีแพทเทิร์นโฟมที่ช่วยสลายแรงกระแทกแล้ว ตัวแพทเทิร์นยังถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงช่องทางที่อากาศจะไหลผ่านจากด้านหน้าไปถึงท้ายหมวก ให้สามารถโฟลวอากาศได้ลื่นไหลที่สุดโดยไม่เกิด drag จึงตอบสนองต่อความต้องการหมวกที่เย็นสบายได้เป็นอย่างดี

น้ำหนักเบา ลดภาระกดทับ

นอกจากนี้แพทเทิร์นภายในหมวกที่เปลี่ยนไปยังทำให้หมวกมีน้ำหนักโดยรวมเบาลงถึง 3% ช่วยลดภาระที่กดกับบนศีรษะ จึงสวมใส่แล้วรู้สึกเบาสบายขึ้นอีกด้วย

ลดการใช้พลาสติก

การผลิตหมวกที่มีเทคโนโลยี KINETICORE สามารถลดการใช้พลาสติกและโฟมลงได้ถึง 10% เมื่อเทียบกับหมวกแบบเดิม ทำให้การผลิตหมวก KINETICORE 1,000 ใบสามารถลดการใช้พลาสติกและโฟมไปได้ถึง 40KG ซึ่งแน่นอนว่าใน 1 ปีเราไม่ได้ผลิตหมวกแค่ 1,000 ใบ รวมๆ แล้วจึงสามารถลดการใช้ทรัพยากรไปได้มหาศาล

LAZER Vento KinetiCore

หมวกสายแอโร่รุ่นใหม่ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวท็อป พิสูจน์แล้วด้วยอุโมงค์ลมของ LAZER ว่าช่วยเซฟวัตต์ได้ถึง 2% เมื่อเทียบกับ Bullet 2.0 Mips นอกจากนี้ยังสวมใส่เย็นสบายด้วยรูระบายอากาศตามจุดต่างๆทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ด้านบน และด้านล่าง ที่ช่วยกันโฟลวอากาศให้ไหลผ่านหมวกได้โดยไม่เกิด drag มาพร้อมระบบปรับกระชับแบบใหม่ ScrollSys system ที่ปรับกระชับได้ง่ายกว่าเดิม ครอบคลุม 360 อาศา และแน่นอนว่าสวมใส่ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี KINETICORE ที่ช่วยสลายแรงกระแทกก่อนถึงศีรษะ ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลถึง 3 สถาบันคือ CE – CPSC – AS แล้วยังได้คะแนน 5 ดาวจาก Virginia Tech อีกด้วย

ราคา 7,600 บาท

LAZER Jackal KinetiCore

หมวกตัวท็อปสาย MTB ที่ขึ้นชื่อเรื่องการปกป้องครอบคลุมสูงสุด พร้อมป้องกันให้คุณปลอดภัยยิ่งกว่าเดิมด้วยการปรับปรุงภายในหมวกเป็นเทคโนโลยี KINETICORE ทำให้น้ำหนักโดยรวมของหมวกเบาลงถึง 10G เมื่อเทียบกับ Jackal รุ่นก่อน แต่ยังคงไว้ทั้งความสบายและฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะรูระบายอากาศขนาดใหญ่ช่วยให้อากาศโฟลวได้เย็นสบาย Visor ปรับระดับได้ แถบยึด Goggle ด้านหลังหมวก และสายคล้องแบบแม่เหล็กที่ถอดใส่ได้ง่าย รวมถึงได้รับการรับรองมาตรฐานสากลจาก 3 สถาบันคือ CE – CPSC – AS แล้วยังได้คะแนน 5 ดาวจาก Virginia Tech อีกด้วย

ราคา 5,500 บาท

LAZER Strada KinetiCore

สัมผัสเทคโนโลยีใหม่จาก LAZER ได้ในราคาย่อมเยาว์ สวมใส่เย็นสบายด้วยรูระบายอากาศขนาดใหญ่ที่ผสานกับช่องระบายอากาศด้านในของ KINETICORE ให้การปกป้องครอบคลุมด้วย Full buttom shell มาพร้อมระบบปรับกระชับแบบใหม่ ScrollSys system ที่ปรับกระชับได้ง่ายกว่าเดิม ครอบคลุม 360 อาศา รวมถึงมีช่องสำหรับเสียบแว่นตา และมั่นใจได้ด้วยการรับรองมาตรฐานสากลจาก 3 สถาบันคือ CE – CPSC – AS แล้วยังได้คะแนน 5 ดาวจาก Virginia Tech อีกด้วย

ราคา 3,200 บาท

LAZER Pnut KinetiCore

เพราะนักปั่นทุกคนควรเข้าถึงความปลอดภัยในการปั่น ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ มือเก๋า หรือแม้แต่นักปั่นตัวจิ๋ว LAZER ได้นำเทคโนโลยี KINETICORE เข้ามาใส่ไว้ในหมวกเด็ก ทำให้นอกจากจะมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีน้ำหนักเบาลง เพื่อลดการกดทับบนศีรษะ ทำให้เด็กๆรู้สึกสบายเวลาสวมใส่หมวก และไม่รู้สึกต่อต้านการสวมหมวกจักรยานนั่นเอง นอกจากนี้ยังให้การปกป้องครอบคลุมรอบด้าน มาพร้อมตาข่ายกันแมลง เลือกใช้ง่ายเพราะเป็นแบบ Auto Fit สำหรับศีรษะขนาด 46-50 cm และแน่นอนว่าได้รับการรับรองมาตรฐานสากลจาก 3 สถาบันคือ CE – CPSC – AS

ราคา 1,350 บาท

ถุงเท้ายาวที่ออกแบบมาให้สามารถระบายอากาศได้ดี ผ้าหนาพิเศษในจุดสัมผัสต่างๆ ทำให้สวมใส่นุ่มสบายเท้า ดีไซน์แมทช์กับรองเท้าและชุดปั่น SHIMANO ได้อย่างยอดเยี่ยม

สี Black Ajiro, Navy Ajiro, White, Blue Navy
ขนาด 36-40, 41-44, 45-48
ราคา 500 บาท

สนใจติดต่อ https://hahhong.com/dealer/

#imwithshimano #imwithshimanoSEA #RideShimano #RideShimanoSEA #allfortheride #allfortherideSEA

ถุงเท้าเกรดโปรที่จะยกระดับทั้ง Performance และความสบาย เพื่อประสบการณ์การปั่นที่สุดยอดของคุณ มาพร้อมโครงผ้านุ่มๆ บนหลังเท้า แต่มีส่วนพื้นถุงเท้าบางกว่าเพื่อให้ฝ่าเท้าแนบชิดกับรองเท้ามากขึ้น ช่วยระบายความร้อน รวมถึงมีผ้าทอในส่วนส้นเท้าที่ช่วยเซฟเท้าเมื่อปั่นเร่งความเร็ว

สี ขาว-ม่วง, ฟ้า-น้ำเงิน, ดำเทา
ขนาด 36-40, 41-44, 45-48
ราคา 730 บาท

สนใจติดต่อ https://hahhong.com/dealer/
#imwithshimano #imwithshimanoSEA #RideShimano #RideShimanoSEA #allfortheride #allfortherideSEA

ลาดปลาเค้าจักรยาน หรือ LK Bike ร้านจักรยานที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นแตกย่อยสาขาจากสาขาลาดปลาเค้า 54 มาสู่สาขารามอินทรา 2 ที่นักปั่นหน้าใหม่ หน้าเก่าวนเวียนเข้าร้านมาเลือกช็อปสินค้าและนำจักรยานมาเซอร์วิสกับ “ช่างเฟิร์ส” ช่างมือหนึ่งประจำสาขารามอินทรา 2 ด้วยฝีมือและประสบการณ์ที่มัดใจลูกค้ามาแล้วหลายราย

เรื่องเกร็ดความรู้ใหม่ๆ อัพเดตข่าวสารเรื่องจักรยานช่างเฟิร์สก็ไม่พลาด ไม่ว่าจะเป็นการเซอร์วิสชุดขับเคลื่อนระบบไฟฟ้า Di2 ทั้ง DURA-ACE R9200 และ ULTEGRA R8100 ช่างเฟิร์สก็เข้าร่วมอบรมพร้อมนำเทคนิคต่างๆ มาอัพเกรดจักรยานให้กับลูกค้าพร้อมออกซิ่งทุกคัน จะเปลี่ยนอะไหล่จักรยาน อัพเกรดชุดขับเคลื่อนหรือประกอบรถก็มั่นใจในคุณภาพที่มีมาตรฐานระดับสากลจาก SHIMANO ด้วยฝีมือและความชำนาญของช่างเฟิร์สที่รับรองว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน! แฟนเพจ LK Bike อาจเห็นเรื่องราวสุดน่ารักที่ถ่ายทอดความรู้สึกดีๆและความเอาใจใส่ในจักรยานของช่างเฟิร์สและพี่ๆ LK Bike กับ #ปลุกชีพจักรยานเก่า ไม่ว่าจักรยานคุณจะมีสภาพเก่าแค่ไหนแต่เป็นรถคันโปรดของคุณหรือของคนสำคัญ อยากให้รถกลับมาใช้ได้อีกครั้ง ช่างเฟิร์สก็พร้อมลุยเต็มที่ให้รถคันเก่าของคุณกลับมาใช้งานได้อีกครั้งเหมือนได้รถจักรยานคันใหม่

นอกจากจะเป็นช่างประจำร้านแล้ว ช่างเฟิร์สยังรับหน้าที่เป็นฟิตเตอร์ประจำร้าน LK Bike สาขารามอินทรา 2 อีกด้วย ไม่ว่าจะติดตั้งคลีทหรือทำ Full Fitting จะแก้ปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บหรือพัฒนาการปั่นให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ก็ต้องบอกเลยว่าคิวแน่นทุกสัปดาห์ ถือเป็นอีกหนึ่งการให้บริการที่มัดใจลูกค้ามานักต่อนัก จนมีการพูดคุยแนะนำบอกต่อกันปากต่อปากในกลุ่มนักปั่นที่เคยมาใช้บริการที่ร้านและคนที่ไม่เคยลองฟิตติ้งกับที่ร้านก็ต้องยิ้มแก้มปริกลับไปหลังจากฟิตติ้ง จะซ่อมจักรยานหรือฟิตติ้งก็วางใจในฝีมือช่างเฟิร์สได้เลย

ร้าน ลาดปลาเค้าจักรยาน LK Bike สาขารามอินทรา 2
ที่ตั้ง: 9/7-8 อนุสาวรีย์ Bang Khen, Bangkok 10220
พิกัด: https://g.page/LkbikeramintraKM2?share
เวลาเปิด-ปิด: 10:00-19:00 น. (จันทร์-เสาร์)
โทร: 02-115-3606

#rideshimano #imwithshimano #rideshimanoSEA #imwithshimanoSEA #ExcellentBikeCare #WorldClassBikeService #bikefittingcom #YourOptimalCyclingExperience

“รองเท้า” อีกหนึ่งอุปกรณ์คู่ใจนักปั่นที่ช่วยให้ Performance ทั้งดีขึ้นและปั่นสนุกขึ้นได้ รองเท้าสำหรับปั่นจักรยานโดยเฉพาะ นอกจากมีที่ติดตั้งคลีทเพื่อล็อคเท้าไว้กับบันไดแล้ว มักจะมีพื้นแข็งกว่ารองเท้าทั่วไปเพื่อให้สามารถส่งแรงปั่นไปยังบันไดได้มากที่สุด ในการเลือกรองเท้าสักคู่ นอกจากเลือกที่สวมใส่กระชับสบายแล้ว การเลือกคู่ที่รองรับเข้ากับสไตล์การปั่นก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยส่งเสริม Performance ให้สูงขึ้นได้

ในส่วนของรองเท้า MTB หรือ XC shoe นอกจากการส่งแรงปั่นแล้วยังถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงความคล่องตัวในการใช้งานกลางป่ากลางเขาหรือพื้นที่ขรุขระด้วย SHIMANO จึงได้พัฒนาพื้นรองเท้าแบบใหม่ในชื่อ ULTREAD ที่ใช้วัสดุผสมทำให้มีความแข็งแรงทนทาน แต่น้ำหนักเบาลง รวมกับแพทเทิร์นดอกยางแบบใหม่ จึงให้การยึดเกาะที่เหนือชั้นมากยิ่งขึ้น และสามารถสลัดโคลนออกได้ง่ายอีกด้วย รองเท้า XC แต่ละรุ่นของ SHIMANO มีจุดเด่นอะไรบ้าง เราไปดูพร้อมกันเลย

สนใจติดต่อ https://hahhong.com/dealer/
#imwithshimano #imwithshimanoSEA #RideShimano #RideShimanoSEA #allfortheride #allfortherideSEA

ULTREAD

ULTREAD เป็นพื้นรองเท้าที่พัฒนาขึ้นโดย SHIMANO โดยมุ่งเน้น 3 ด้านคือ ความทนทาน น้ำหนักเบา และการยึดเกาะ โดยเลือกใช้เป็นพื้นยางวัสดุผสมที่ทาง SHIMANO คิดค้นขึ้นมาเองจนได้วัสดุที่แข็งแรงทนทานมากกว่าพื้นรองเท้าตัวเดิม แต่มีน้ำหนักเบาลง โดยรุ่น XC902 ที่เปลี่ยนมาใช้พื้น ULTREAD นั้นเบาลงกว่า XC901 ถึง 37G นอกจากวัสดุแล้ว SHIMANO ยังค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับแพทเทิร์นของดอกยาง ทั้งดอกยางสูงรอบๆ ที่ช่วยให้จิกพื้นดินได้ดีขึ้น และแพทเทิร์นดอกยางช่วงกลางรองเท้าที่ช่วมเพิ่มการยึดเกาะ ทำให้นอกจากจะเพิ่มความมั่นคงและมั่นใจในการคอนโทรลรถมากขึ้นเมื่ออยู่บนจักรยานแล้ว ตอนที่ลงเดินบนพื้นดินเองก็สบายขึ้นเช่นกัน

SHIMANO S-PHYRE XC902

ตัวท็อป High-Performance High-End XC902 มาพร้อมพื้น ULTREAD ความสติฟสูงสุด 11 ที่สนับสนุนการส่งกำลังจากเท้าไปยังบันไดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงเป็นที่ไว้วางใจของนักปั่นโปรทัวร์มากมายนำไปใช้ในการแข่งขัน เสริมด้วย Spike Kits แบบใหม่ที่ช่วยให้จิกดินได้มากขึ้น เป็นรองเท้าทรงหน้ากว้างเหมาะกับรูปเท้าคนไทย ส่วนบนโอบกระชับแบบไร้รอยต่อ สวมใส่สบาย ปรับกระชับได้ละเอียดและรวดเร็วด้วย BOA Li2 น้ำหนักเบาเพียง 296G เท่านั้น
สี ขาว, ดำ, ฟ้า
ขนาด 38-47
ราคา 11,500 บาท

SHIMANO XC702

รุ่นรองท็อปที่ Performance ไม่เป็นรองใคร ช่วยเซฟงบประมาณได้มากขึ้น XC702 เรียกว่าได้รับการถ่ายทอด DNA จาก XC902 มาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทั้งพื้น ULTREAD และความสบายในการสวมใส่ ข้อที่แตกต่างจาก XC902 คือไม่มี Spike Kits และพื้นรองเท้ามีค่าสติฟต่ำกว่าอยู่ที่ 9 แต่ความสติฟเพียงเท่านี้ก็มากพอที่จะใช้ในการแข่งขัน และสามารถช่วยส่งกำลังจากเท้าไปยังบันไดได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาในทรงหน้ากว้างเช่นกัน ส่วนบนโอบกระชับแบบไร้รอยต่อ สวมใส่สบาย ปรับกระชับได้ละเอียดและรวดเร็วด้วย BOA L6 มีน้ำหนักเพียง 320G เท่านั้น
สี ขาว, ดำ, แดง
ขนาด 38-47
ราคา 6,500 บาท

SHIMANO XC502

เอาใจสายแฟชั่น แต่ไม่ทิ้ง Performance ชั้นยอด XC502 เองก็เป็นอีกรุ่นที่มาพร้อมพื้น ULTREAD ค่าความสติฟ 7 ที่ช่วยส่งกำลังจากเท้าไปยังบันไดได้เป็นอย่างดี จัดเป็นรองเท้าเรนจ์กลางที่ใช้งานได้หลากหลาย แต่มีไฮไลท์อยู่ที่ส่วนส้นเท้าตัดด้วยสีดำทำให้ดูโดดเด่น ถูกในสายแฟชั่นแน่นอน นอกจากลุคแล้วความสบายก็ยังถูกบรรจุไว้ภายในรองเท้าทรงหน้ากว้างนี้ กับส่วนบนที่โอบกระชับสวมใส่สบาย ปรับกระชับได้ง่ายด้วยปุ่ม BOA L6 และแถบ Strap ที่สำคัญมีทรงผู้หญิงให้เลือกด้วย
สี ดำ, ฟ้า, เขียว
ขนาด 38-47

ทรงผู้หญิง สี เขียวน้ำทะเล
ขนาด 36-39

ราคา 4,400 บาท

SHIMANO XC300

Performance ที่ดีในราคาคุ้มค่า XC300 เป็นรองเท้าเรนจ์เริ่มต้นที่มีค่าความสติฟ 5 พื้นรองเท้าออกแบบเป็น Low stack height midsole เพิ่มชั้นป้องกันนิ้วเท้าด้านหน้าเเละส้นเท้า ช่วยให้วางเท้าได้อย่างมั่นคงและส่งแรงไปยังบันไดได้ดีขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักปั่นที่กำลังมองหารองเท้าคลีทคู่แรกส่วนบนโอบกระชับสบาย ปรับกระชับได้ครอบคลุมด้วย BOA L6 ที่ตำแหน่งกลางรองเท้า มีทรงผู้หญิงให้เลือกใช้งาน
สี ดำ, น้ำเงินเข้ม
ขนาด 40-47

ทรงผู้หญิง สี ดำ
ขนาด 36-37

ราคา 3,200 บาท

SHIMANO XC100

ต้อนรับคุณเข้าสู่โลกของการปั่น ด้วยรองเท้าคลีทคู่แรก XC100 เป็นรองเท้าเรนจ์เริ่มต้นที่มีค่าความสติฟ 5 ใส่สบาย สวมใส่ได้ง่ายด้วยสาย Strap เหมาะสำหรับนักปั่นที่เพิ่งหัดใส่รองเท้าคลีทและกำลังมองหารองเท้าคู่แรกในราคาเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงมีทรงผู้หญิงให้เลือกใช้งานด้วย
สี ดำ, แดง
ขนาด 38-47

ทรงผู้หญิง สี ดำ
ขนาด 36-38

ราคา 2,500 บาท

สามารถสอบถามเพื่อวัดไซส์และสั่งซื้อรองเท้า XC จาก SHIMANO ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

“พงศ์ไบค์” ร้านจักรยานในตัวเมืองนครปฐมที่มีชื่อเสียงเลื่องลือทั้งการเซอร์วิสจักรยานขั้นเทพที่นักปั่นหลายต่อหลายคนไว้วางใจเลือกมาใช้บริการ และสินค้าที่มีความหลากหลายครอบคลุมสำหรับนักปั่นมือใหม่ไปจนถึงระดับโปร

ร้าน พงศ์ไบค์ นครปฐม
ที่ตั้ง : 395 ถ.เพชรเกษม ต.พระประโทน อ.เมือง จ.นครนครปฐม 73000
พิกัด : https://goo.gl/maps/ucyPf2jEK87rmPUz6
เวลาเปิด-ปิด : 8:00-18:00 น. (เปิดทุกวัน)
โทร : 089-561 5656

#ExcellentBikeCare #imwithshimano #RideShimano #ShimanoServiceCenter #imwithshimanoSEA #RideShimanoSEA #allfortheride #allfortherideSEA #ShimanoBikeShopGuide #LazerSportSEA #PowerYourPerformance #PowersYourPerformance #UpgradeOutperform #PROBikegear #PROBikegearSEA

สำหรับที่มาที่ไปของชื่อร้าน “พงศ์ไบค์ จักรยาน” ก็ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายเพราะชื่อร้านมาจากชื่อ “พี่พงศ์” เจ้าของร้านผู้หลงใหลและคลุกคลีในวงการจักรยานมาหลายปี พี่พงศ์นอกจากจะเป็นเจ้าของร้านคอยให้บริการลูกค้าทั้งเรื่องเซอร์วิสจักรยานและการแนะนำสินค้าต่างๆ แล้ว พี่พงศ์ยังเป็นขาแรงออกปั่นกับชาวแก๊งค์อยู่บ่อยๆ ทำให้พี่พงศ์รู้ใจจักรยานเป็นอย่างดีเพื่อนำประสบการณ์มาให้บริการลูกค้า ทำความรู้จักพี่พงศ์กันมาพอประมาณ เราให้พี่พงศ์พาเข้าไปดูในร้านกันบ้างดีกว่า

เดินเข้ามาภายในร้านก็จะมีสินค้าจาก Shimano และสินค้าอื่นๆ ในเครือให้ลูกค้าได้เลือกช็อป เลือกอัพเกรดไม่ว่าจะเป็นอะไหล่ต่างๆ หรือชุดขับเคลื่อนทั้งเสือหมอบและเสือภูเขา เราเข้าไปดูใกล้ๆ กันเลยว่าจะมีสินค้าอะไรน่าอัพ น่าเปลี่ยนกันบ้าง

เริ่มที่อะไหล่สึกหรอที่เมื่อใช้งานไปตามกาลเวลาเมื่อประสิทธิภาพลดลงก็ต้องเปลี่ยนเพื่อประสิทธิภาพในการปั่นที่ดี อย่างพวกคลีทรองเท้า ผ้าเบรก ลูกกลิ้งตีนผี โซ่และอะไหล่ในส่วนอื่นๆ

ถัดมาบริเวณใกล้ๆ กันก็ยังเป็นอะไหล่จำเป็นให้นักปั่นได้อัพเกรดกันตามความต้องการ มีให้เลือกทั้งแบบแมคคานิคและระบบไฟฟ้า Di2 ไม่ว่าจะเป็นใบจาน ตีนผี ใบดิสก์เบรก และแบตเตอรี่สำหรับ Di2 ก็มีพร้อมให้บริการ มั่นใจในลิขสิทธิ์แท้และคุณภาพได้ทุกชิ้น

บริเวณเดียวกันยังมีสินค้าจาก PRO แบรนด์หนึ่งในเครือ Shimano ที่กำลังเป็นที่นิยมในวงการจักรยานจะมือใหม่หรือมือโปรก็เลือกใช้ สินค้าของที่ร้านก็มีให้เลือกทั้งเบาะ แฮนด์ สเต็ม หลักอานครอบคลุมทั้งเสือหมอบและเสือภูเขาตั้งแต่ซีรีย์ราคาย่อมเยาไปจนถึงซีรีส์ระดับโปร รวมไปถึงอุปกรณ์อื่นๆ อย่าง ที่งัดยาง กระติกน้ำ และกระบอกเก็บเครื่องมือสำหรับสายทัวร์ริ่งสายปั่นทางไกลเอาไว้เก็บเครื่องมือจำเป็นยามออกทริประยะไกล
#PowerYourPerformance #PowersYourPerformance #UpgradeOutperform #ProBikegear #ProBikegearSEA

มาถึงบริเวณที่เป็นหัวใจสำคัญของจักรยานอย่างชุดขับเคลื่อน สำหรับนักปั่นที่อยากอัพเกรดชุดขับก็มีให้เลือกทั้งเสือหมอบ เสือภูเขาและสาย Gravel รวมไปถึงชุดขับเคลื่อนระบบไฟฟ้า Di2 ซีรีส์ใหม่ล่าสุดอย่าง DURA-ACE R9200 และ ULTEGRA R8100
#ForThoseWhoNeverCompromise #ScienceofSpeed #LeaveTimeBehind

นอกจากอะไหล่ต่างๆนาๆ ที่จำเป็นต่อการปั่นจักรยานแล้ว รองเท้ายังเป็นอีกไอเท็มที่นักปั่นทุกคนให้ความสำคัญทั้งในเรื่องของดีไซน์ที่สวยงามและการสวมใส่ที่สบายกระชับพอดีกับเท้า รองเท้า Shimano ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่พี่พงศ์อยากแนะนำให้กับลูกค้าเพราะรองเท้า Shimano ถือว่าตอบโจทย์ทั้งเรื่องของดีไซน์ ให้ Performance ที่ดีโดยเฉพาะการโอบกระชับของรองเท้ากับเท้าที่ให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกัน รองเท้า Shimano ของร้านพงศ์ไบค์มีให้เลือกตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นอย่าง RC300 และรองเท้าโมเดลใหม่ล่าสุดที่มีการพัฒนานำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยให้รองเท้ามี Performance มากขึ้นอย่าง RC502 / RC702 แถมพี่พงศ์ยังมีตัวช่วยหรือเครื่องมือในการเลือกไซส์รองเท้าให้ได้ขนาดที่เหมาะสมเข้ากับรูปเท้าของลูกค้าแต่ละคนอีกด้วย

หมวกจักรยานเป็นไอเท็มอันดับต้นๆที่ควรให้ความสำคัญ พี่พงศ์ขอแนะนำหมวก LAZER หมวกจักรยานจากประเทศเบลเยียมที่การันตีเรื่องความปลอดภัยและการสวมใส่ที่สบาย จะมีให้เลือกตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงหมวก Performance อย่างรุ่น SPHERE ราคาย่อมเยาว์ สวมใส่สบายพร้อมระบบการระบายอากาศที่ยอดเยี่ยม โดยหมวกรุ่นนี้พี่พงศ์ก็ได้ใช้ออกทริป LAZER Ride#2 อีกด้วย พี่พงศ์ยังบอกอีกว่า “เพราะพี่ใช้เองจึงกล้าบอกต่อแนะนำลูกค้า”
#LazerSport #LazerSportSEA #UseYourHead

เดินทัวร์ร้านในส่วนของสินค้า Shimano และสินค้าในเครือกันครบแล้ว มาถึงในส่วนของการเซอร์วิสจักรยานกันบ้าง โดยรถทุกคันที่เข้ามาเซอร์วิสจะต้องผ่านมือพี่พงศ์ทุกคัน ลูกค้าประจำจะทราบกันดีว่าพี่พงศ์ลงมือประกอบรถ ติดตั้งชุดขับด้วยตัวเองทุกคัน ช่วงนี้ลูกค้าเข้ามาอัพชุดขับ Di2 กันสะเป็นส่วนใหญ่โดยเฉพาะ NEW ULTEGRA R8100 ชุดขับเคลื่อนระบบไฟฟ้า (Di2) ซีรีส์ใหม่ล่าสุดที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่ก็มั่นใจในฝีมือพี่พงศ์ จนมีการแซวกันในโลกโซเชียลว่า ทำรถร้านนี้บินทุกลำบ้างเอย ทำรถร้านนี้แรงบ้างเอย ใครที่ยังไม่เคยเข็นรถเข้าไปเซอร์วิสกับที่ร้าน อยากให้ลองเข็นรถเข้าไปใช้บริการดูสักครั้งเพราะ “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น”

เซอร์วิสขั้นเทพขนาดนี้เรามาดูตัวช่วยในการเซอร์วิสของที่ร้านกันบ้างดีกว่าว่ามาใช้บริการที่ร้านแล้วจะมีเซอร์วิสอะไรบ้าง มาเริ่มกันที่การเลือกซื้อรองเท้าพี่พงศ์ก็มีเครื่องวัดหาไซส์รองเท้าอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ และเมื่อได้รองเท้าคู่ใจมาแล้วลูกค้าที่ซื้อรองเท้ากับทางร้านจะได้รับบริการติดตั้งคลีทรองเท้าฟรี! ด้วยเครื่องมือจาก bikefitting.com หรือลูกค้าที่อยากจะเอาคลีทมาติดตั้งใหม่ก็มั่นใจได้เลยว่าองศาการตั้งคลีทเป๊ะปั่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแน่นอน สุดท้ายเป็นเบาะเทสต์ของ PRO ที่ทางร้านมีให้ลูกค้าได้ทดลองใช้งานจริงก่อนเลือกซื้อนั่นเอง*
(*เงื่อนไขและรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามกับทางร้านพงศ์ไบค์โดยตรง)
#bikefittingcom #YourOptimalCyclingExperience #PROBikegearSEA #imwithshimanoSEA #rideshimanoSEA

สำหรับสินค้าอื่นๆของทางร้านยังมีให้เลือกอีกมากมาย CatEye ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่นักปั่นหลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดีเมื่อพูดถึงไฟจักรยานและไมล์จักรยาน เพราะเป็นแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นที่ครองใจนักปั่นมาเนิ่นนาน การันตีคุณภาพจากญี่ปุ่นทุกชิ้น และเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าไปอีกขั้นมั่นใจได้เลยว่าสินค้า CatEye ของร้านพงศ์ไบค์เป็นสินค้าลิขสิทธิ์แท้ทุกชิ้นเพราะร้านพงศ์ไบค์ได้รับให้เป็น Authorized Dealer จาก CatEye สินค้ายอดฮิตของทางร้านจะเป็นไฟหน้าที่นักปั่นสาย Touring / Gravel เข้ามาถามหากันเยอะ เพราะไฟหน้าของ CatEye มีความแข็งแรงทนทาน แบตอึดถึกทนใช้งานได้นานจึงตอบโจทย์ลูกค้า ส่วนใครที่สนใจสินค้าของ CatEye ยังมีสินค้าอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายให้เข้าไปเลือกชมเลือกช็อป หรือจะขอคำแนะนำพี่พงศ์ก็พร้อมให้บริการ
#TrustTheCat #CatEye #CatEyeLights #ridewithcateye

สินค้าอีกหนึ่งแบรนด์ที่พี่พงศ์คัดสรรมาให้บริการกับลูกค้า คือยาง Schwalbe ยางจักรยานคุณภาพดีในเรื่องของเนื้อยางที่มีความทนทาน ยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดีจากประเทศเยอรมัน อีกหนึ่งแบรนด์ที่อยู่คู่ใจวงการจักรยานมาอย่างยาวนาน ยางเสือหมอบรุ่นยอดนิยมอย่าง Lugano / Pro One และ One รวมไปถึงยางเสือภูเขาสำหรับสายลุยก็มีพร้อมให้บริการ
#SchwalbeTire #Schwalbe #rideschwalbe #gripisyourfriend

ก่อนจากกันวันนี้เราก็เก็บภาพบรรยากาศการพูดคุยแนะนำสินค้าของพี่พงศ์กับลูกค้ามาให้ดูกัน นักปั่นที่อยากได้คำปรึกษา คำแนะนำเรื่องจักรยานก็เข้าไปปรึกษากับพี่พงศ์ได้ทุกเมื่อ เซอร์วิสขั้นเทพ..สินค้าอัดแน่นจัดเต็มเรื่องคุณภาพพร้อมให้บริการที่ร้านพงศ์ไบค์

ชุดขับ DURA-ACE เจเนอเรชั่นใหม่ สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อนักปั่นที่ไม่เคยยอมประนีประนอมให้ใคร หากคุณยังไม่ย่อท้อต่อการไปให้เร็วยิ่งกว่าและสูงยิ่งกว่า DURA-ACE จะพาคุณไปให้ถึงจุดสูงสุดเอง! SHIMANO ทุ่มเททั้งฝีมือและระยะเวลาแรมปี รวบรวมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดไว้ใน DURA-ACE R9200 นี้ เพื่อส่งให้คุณไปได้เร็วขึ้นแม้สักวินาที เราสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับชุดขับเสือหมอบ โดยการวิจัยและพัฒนาภายใต้คอนเซปต์ SCIENCE OF SPEED ที่จะยกระดับชุดขับอย่างครอบคลุมทั้ง 5 ด้าน

เริ่มจากปรับปรุงแพลตฟอร์ม Di2 ใหม่เป็นแบบ Wireless ที่ทำงานได้รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น จึงไว้ใจได้มากกว่าเดิม ดีไซน์ Interface ใหม่เพิ่มความสมดุล ทั้งแอโร่และจับสบาย ปรับระบบเกียร์ใหม่เป็น 12 SPEED ให้ประสิทธิภาพสูงสุด สมบูรณ์ขึ้นทุกรายละเอียด รวมถึงปรับปรุงระบบเบรกใหม่ให้คอนโทรลได้ละเอียดขึ้น เงียบขึ้น จนเรากล้าพูดว่าดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และระบบล้อใหม่ ที่มีทั้งความแข็งแกร่ง มีแอโร่ไดนามิคที่ดี และน้ำหนักเบา เรียกว่ายกเครื่องมาใหม่ทั้งชุด แรงสุดสมการรอคอย แต่จะดีขึ้นแค่ไหน ดีขึ้นอย่างไร เราไปเจาะลึกในแต่ละหัวข้อกันเลยดีกว่า

DURA-ACE Di2 Rim Brake 129,000 บาท
DURA-ACE Di2 Disc Brake 133,300 บาท
ราคารวมใบดิสก์ สายไฟ และสายชาร์จ

สนใจสั่งซื้อและเข้ารับบริการติดตั้ง สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
hahhong.com/dealer/

#imwithshimano #imwithshimanoSEA #RideShimano #RideShimanoSEA #allfortheride #allfortherideSEA

Platform Di2 ใหม่

DURA-ACE R9200 จะเป็นชุดขับพร้อมชุดเกียร์ Di2 เท่านั้น ไม่มีชุดเกียร์แบบเมคานิคส์แล้ว โดยมีชิฟเตอร์แบบ Wireless (เฉพาะ Disc Brake) คอยส่งสัญญาณสั่งการไปยังตีนผี ซึ่งระบบ Wireless ของ Di2 ใหม่นี้มีทั้งความปลอดภัยสูง กินพลังงานต่ำ และมีสัญญาณรบกวนน้อย แต่เรายังเพิ่มประสิทธิภาพของ Di2 ขึ้นไปอีก ด้วยการเชื่อมต่อตีนผีกับแบตเตอรี่และสับจานหน้าด้วยสายไฟ เพราะจะทำให้การสั่งการผ่านแต่ละชิ้นส่วนมีความสเถียรมากขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงกว่า ให้ความมั่นใจที่มากกว่าเดิม โดยผลลัพธ์คือตีนผีสามารถตอบสนองได้ไวขึ้นถึง 58% และสับจานหน้าก็ทำงานได้ไวขึ้นอีก 45% เมื่อเทียบกับ DURA-ACE R9150 รุ่นก่อน จนกลายเป็นชุดเกียร์ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วที่สุด

ในขณะเดียวกันก็ลดความยุ่งยากในการติดตั้งและใช้งานลง โดยรวมอุปกรณ์ต่างๆไว้ในตีนผีที่เดียว ทั้ง Junction A, ที่ชาร์จแบตเตอรี่, ตัวส่งสัญญาณ Bluetooth และ ANT+ หรือ D-FLY รวมถึงปรับเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่แค่ก้อนเดียว เวลาเซอร์วิสจึงทำได้ง่าย ซึ่งแบตเตอรี่ใหม่นี้จะทำหน้าที่จ่ายไฟให้ตีนผีและสับจานหน้า สำหรับการชาร์จแบต 1 ครั้งสามารถปั่นได้ถึง 1,000KM จากการทดสอบปั่นระยะทาง 45KM ต่อวัน ที่อุณหภูมิ 25 องศา ส่วนตัวชิฟเตอร์จะใช้แบตกลม ที่มีอายุการใช้งานนาน 1.5 – 2 ปี

นอกจากนี้ยังเลือกใช้งานเกียร์โดยเชื่อมต่อผ่านสายเคเบิ้ลได้เช่นกัน เหมาะสำหรับติดตั้งให้จักรยาน E-Bike หรือใช้ในทีมปั่นที่มีจักรยานหลายคัน ช่วยลดปัญหาเรื่องสัญญาณรบกวนได้ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักปั่นที่ต้องการความไว้วางใจระดับสูงสุดในการใช้งาน และการเชื่อมต่อแบบสายยังใช้พลังงานน้อยกว่าระบบ Wireless ถึง 50% รวมถึงหากปั่นไปแล้วเกิดอุบัติเหตุจนสายเคเบิ้ลเสียหายหรือขัดข้อง ระบบก็จะสลับไปใช้การสั่งงานแบบ Wireless โดยอัตโนมัติ จึงสามารถใช้งานชุดขับได้อย่างมั่นใจมากกว่าเดิม

Interface ใหม่

เคียงคู่มากับ Performance นักปั่นมักมองหา Comfort หรือความสบาย เราจึงปรับดีไซน์ฮู้ดตามหลักสรีระศาสตร์ บาลานซ์ทั้งความสบายและความแอโร่ จนออกมาเป็น Unparalleled Ergnomigs ที่ฮู้ดมีดีไซน์โค้งเข้ารับกับข้อมือ ให้องศาการวางตัวของข้อมือที่สบายยิ่งขึ้น รวมถึงมีส่วนฮู้ดที่สูงกว่าเดิม ซึ่งนอกจากจะจับสบายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้คอนโทรลรถได้ง่าย ระยะ Reach เองก็ถูกปรับเพิ่มขึ้น จึงทำให้วางมือได้กระชับ กำได้เต็ม 3 นิ้ว ส่วนของปุ่มก็ยาวขึ้น เพื่อให้สามารถกดเปลี่ยนเกียร์ขณะจับดรอปได้ง่าย แล้วยังเพิ่ม Offset ของปุ่มเกียร์ให้ต่างกันมากขึ้นด้วย เวลาสัมผัสจึงแยกปุ่มได้ง่าย แม้จะใส่ถุงมือหรือสัมผัสด้วยมือเปียกก็ตาม

นอกจากนี้ลุคใหม่ของ DURA-ACE R9200 ยังมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัด ก็คือ Cockpit ดูสะอาดตาขึ้น เพราะ Di2 ระบบ wireless ทำให้พอร์ตสายเกียร์ต่างๆ ถูกตัดออกไป รวมถึงอุปกรณ์ยิบย่อยอย่าง Junction A ก็ถูกเก็บรวมไปไว้ในตีนผีแทน บริเวณ Cockpit จึงดูเรียบร้อยขึ้นถนัดตา แต่ยังคงไว้ด้วยลูกเล่นหลากหลายให้คุณสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการใช้งาน ทั้งสวิตช์เสริมสำหรับสปริ้นท์หรือไต่เขา รวมถึงการปรับแต่งรายละเอียดการเปลี่ยนเกียร์และการตั้งค่าปุ่มกด ก็ยังคงทำได้ผ่าน E-TUBE Project เช่นกัน

ระบบเกียร์ใหม่ 12 SPEED

DURA-ACE R9200 ปรับระบบเกียร์ใหม่เป็นแบบ 12 SPEED ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ในรอบขาที่ลื่นไหลกว่าเดิม รวมถึงมีตัวเลือกทั้งเฟืองและจานหน้ากว้างขึ้น จึงได้อัตราทดเกียร์ที่ต่ำลงตามเทรนด์ของนักปั่นในปัจจุบัน โดยเฟืองหลังมีขนาดใหม่ 11-34T และสเป็คจานหน้าใหม่ 54-40T สำหรับเฟืองหลังเรายังคงเลือกใช้เฟืองใบเล็กสุดเป็น 11T เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูง แต่มีการปรับแต่งเกียร์ช่วง Sweet Spot หรือช่วงเกียร์เรนจ์กลางๆที่ถูกใช้งานมาก ให้เกียร์มีความละเอียดมากขึ้น เมื่อเปลี่ยนเกียร์จึงรู้สึกสมูทลื่นไหล รอบขาไม่กระตุก ไม่มีอาการขาวืด แล้วยังนำระบบ Hyperglide+ ที่เคยอยู่ในชุดขับ MTB 12 SPEED เข้ามาใช้อีกด้วย นอกจากเกียร์ที่เปลี่ยนได้อย่างไหลลื่นแล้ว จึงมีทั้งความนุ่มนวล แม่นยำ และตอบสนองได้รวดเร็วไม่ว่าจะเปลี่ยนเกียร์ขึ้นหรือลง

โดยเฟืองใหม่ 12 SPEED นี้ออกแบบโปรไฟล์ส่วนโม่มาให้สามารถใช้งานร่วมกับชุดล้อ 11 SPEED เดิมได้ทันที ในส่วนของจานหน้ามีให้เลือกทั้งแบบขาจานปกติ ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี Hollowtech II คือเป็นขาจานกลวงที่มีน้ำหนักเบาและสติฟสูง กับขาจาน Power Meter แบบใหม่ที่มีความแม่นยำมากขึ้นในอัตรา ±1.5% จากเดิมรุ่นก่อนจะอยู่ที่ ±2% รวมถึงมีระบบชดเชยอุณหภูมิอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้สามารถวัดค่าได้แม่นยำมากขึ้น มาพร้อมแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟ ที่ทั้งกันน้ำและเซอร์วิสได้ง่าย ชาร์จไฟ 1 ครั้งสามารถใช้งานได้นาน 300 ชั่วโมง

ตัวสับจานเองก็ถูกปรับปรุงใหม่ให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้นเช่นกัน และยังถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กลง 33% และมีน้ำหนักเบาลงเหลือเพียง 96G เท่านั้น ส่วนโซ่ที่จะเข้ามาเชื่อมต่ออุปกรณ์ในชุดขับเคลื่อน เลือกใช้เป็นโซ่ MTB 12 SPEED ที่ไว้วางใจได้ในประสิทธิภาพและหาซื้อได้ง่าย โดยเลือกใช้งานได้หมดทั้งรุ่น XTR, XT, SLX รวมไปถึง DEORE

ปรับปรุงระบบเบรก

การมีระบบเบรกที่ดีอาจทำให้พลิกผลการแข่งขันจนส่งนักปั่นขึ้นไปยืนบนโพเดียมได้เลย และเราก็มั่นใจว่านี่คือระบบเบรกที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา ระบบเบรกใหม่ใน DURA-ACE R9200 ยังคงใช้เทคโนโลยี SERVO WAVE Action ที่คาลิเปอร์สามารถทำการจับใบดิสก์ได้อย่างรวดเร็วและนุ่มนวล แต่พัฒนาให้ตอบสนองได้ไวยิ่งขึ้น โดยมีระยะ Free Stroke ที่สั้นลงกว่ารุ่นก่อน แตะเบรกเพียงนิดเดียวก็ทำให้เบรกทำงานได้แล้ว และระยะ Free Stroke ที่สั้นลงยังทำให้มีพื้นที่ในการควบคุมเบรกมากขึ้นอีกด้วย จึงสามารถไล่ระดับการกดเบรกได้ละเอียดกว่า คอนโทรลรถได้แม่นยำขึ้น ทำให้ควบคุมรถได้ละเอียด เข้าโค้งแน่น รวดเร็ว ดุดัน และมั่นใจ

นอกจากนี้ยังมีการปรับระยะระหว่างผ้าเบรกให้กว้างขึ้น 10% ช่วยลดการเสียดสีของผ้าเบรกกับใบดิสก์ จึงช่วยลดเสียงกระทบลงได้ รวมถึงช่วยลดอุณหภูมิที่เกิดจากการเสียดสีลงด้วย โดยใช้งานคู่กับใบดิสก์ MTB รุ่น RT-MT900 สามารถลดอุณหภูมิลงได้ถึง 66% ซึ่งคาลิเปอร์ตัวใหม่นี้จะเป็นแบบ Mono Body คือเป็นชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ที่ช่วยเพิ่มทั้งความแข็งแรงและประสิทธิภาพในการเบรก รวมถึงยังปรับดีไซน์ช่วยให้การเซอร์วิสง่ายขึ้น โดยสามารถเติมและไล่น้ำมันเบรกได้โดยไม่ต้องถอดออกจากตัวรถ นอกจาก Disc Brake แล้วยังมี Rim Brake เป็นตัวเลือกให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

ระบบล้อใหม่

เราได้ออกแบบชุดล้อใหม่ทั้งหมด เพื่อยกระดับมาตรฐานให้กับล้อ Road Racing โดยโฟกัสที่ 3 ด้านคือ ความแอโร่ ความแข็งแรง และน้ำหนักเบา ล้อ DURA-ACE ใหม่มาในดีไซน์เรียบง่าย สามารถเข้าได้กับรถทุกแบรนด์ มีทั้งล้อสำหรับยาง Tubeless และยางฮาร์ฟ หรือ Tubular รวมทั้งหมด 3 ซีรี่ย์ คือ C36 C50 และ C60 โดยแต่ละซีรี่ย์ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป

• C36 เป็นล้อที่เน้นเรื่องน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับนักปั่นที่ชอบขึ้นเขา
• C50 จะเป็นล้อ All-Round ที่ให้อัตราเร่งดี ยืนความเร็วได้ดี และคุณสมบัติสมดุลกันหมดทั้งความแอโร่ ความแข็งแรง และน้ำหนัก
• C60 เป็นล้อที่เน้นความแอโร่และความแข็งแรงสูงสุด สติฟมากที่สุด รองรับการใช้งานปั่นหนักๆ ในย่านความเร็วสูง และตอบสนองต่อการสปริ้นท์ได้อย่างยอดเยี่ยม

อย่างแรกที่เราใส่ใจพัฒนาคือเรื่องแรงต้านลมที่เป็นปัจจัยสำคัญในการปั่น โดยออกแบบโปรไฟล์ขอบล้อใหม่ ทำให้ล้อ C50 สามารถลด Drag และช่วยเซฟวัตต์ลงไปได้ 5.1W เมื่อเทียบกับล้อ C40 รุ่นเก่า ส่วนแรงต้านลมด้านข้างเองก็ทำได้ต่ำใกล้เคียงกันทั้งที่มีขอบสูงกว่า จึงยังได้รับประโยชน์จากแรงลมด้านข้างอยู่ และไม่เสียความสามารถในการควบคุมรถไป

อีกส่วนที่ถูกยกเครื่องใหม่คือ Free Hub มาในดีไซน์ใหม่ชื่อ DIRECT ENGAGEMENT ที่โครงสร้างมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ส่งกำลังได้อย่างรวดเร็ว ลดจังหวะวืดของรอบขา โดยให้สัมผัสในการปั่นที่แข็งแรงขึ้นถึง 63% เมื่อเทียบกับล้อ C40 รุ่นเก่า และเรายังเข้าใจว่าน้ำหนักทุกกรัมมีค่า จึงใส่ใจในการรีดน้ำหนักออกจากทุกชิ้นส่วน เริ่มจาก Free Hub ใหม่ที่เบาลง 45G ปรับปรุงซี่ลวดและขอบล้อ ผลลัพธ์คือล้อ C50 1 คู่ มีน้ำหนักโดยรวมน้อยกว่าล้อ C40 รุ่นเก่าถึง 157G ทั้งที่มีขอบล้อสูงกว่า

• DURA-ACE Tubeless Disc Brake Wheel C36
  ราคา 64,000 บาท
• DURA-ACE Tubeless Disc Brake Wheel C50 / C60
  ราคา 65,000 บาท

ร้านจักรยานย่านสายไหม-สุขาภิบาล ที่มีสินค้าครอบคลุมสำหรับนักปั่นทุกกลุ่มและการเซอร์วิสจักรยานมากคุณภาพเพราะที่ ’น่องโตไบค์’ ใส่ใจดูแลจักรยานทุกคันเหมือนเป็นรถตัวเอง ทุกการเซอร์วิสจึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ที่เวียนกันเข้ามาที่ร้าน ส่วนจะมีสินค้าอะไรบ้างเข้าไปดูในร้านพร้อมกันเลย

ร้านน่องโต Bike

ที่ตั้ง : 14/53 ถนนเพิ่มสิน แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. 10220
พิกัด : https://g.page/NongToBike?share
เวลาเปิด-ปิด : 9:00-20:00 น. (จันทร์-เสาร์)
โทร : 083-546-2501

#ExcellentBikeCare #imwithshimano #RideShimano #imwithshimanoSEA #RideShimanoSEA #ShimanoPoint #ShimanoBikeShopGuide

วันนี้ ‘พี่ฟอง’ เจ้าของร้านจะเป็นไกด์พาเดินทัวร์ร้านแบบลัดเลาะทุกจุดว่ามีสินค้าอะไรพร้อมจำหน่ายและให้บริการลูกค้าบ้าง ตามพี่ฟองไปดูกันเลย เปิดประตูเดินเข้ามาในร้านมองไปบริเวณขวามือจะเจอกับตู้ชุดขับเคลื่อนให้ลูกค้าได้ชมก่อนการตัดสินใจซื้อหรืออัพเกรด โดยทางร้านก็มีชุดขับเคลื่อนรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Shimano Dura-Ace 12-speed และ Ultegra 12-speed ให้ลูกค้าที่สนใจอยากจะอัพเกรด Performance ไปอีกขั้นได้เลือกเปลี่ยน สนใจอยากอัพเกรดชุดขับจะ 12-SPD หรือซีรีส์อื่นๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามพี่ฟองและพี่ๆ ร้านน่องโตไบค์ได้เลย

#ForThoseWhoNeverCompromise #ScienceofSpeed #LeaveTimeBehind

เดินตรงเข้ามาผ่านโซนเคาท์เตอร์ของร้านก็จะเจอกับอะไหล่ Shimano ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ-เลือกเปลี่ยนกันหลากหลายรายการไม่ว่าจะเป็น โซ่ ฮู๊ด ชิฟเตอร์ ใบดิสก์ ผ้าเบรก อะไหล่ทุกส่วนบนจักรยานเป็นสิ่งสำคัญเมื่อถึงเวลาที่มันสึกหรอก็จำเป็นต้องเปลี่ยนเพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ของเรานั่นเอง

มาดูในส่วนโซนด้านซ้ายของร้านกันบ้างจุดแรกที่ พี่ฟอง อยากจะแนะนำเลยคือโซนรองเท้า สำหรับรองเท้าของทางร้านก็จะเน้นไปที่รองเท้าเสือหมอบเป็นหลักที่มีให้เลือกตั้งแต่รุ่นท็อปอย่าง S-PHYRE RC902 สำหรับนักปั่นสาย Performance ไปจนถึงรุ่นเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ที่กำลังมองหารองเท้าคลีทคู่แรกมาใส่ปั่นให้สนุกยิ่งขึ้น บริเวณโซนรองเท้าก็มีสินค้าและอะไหล่ย่อยอย่างคลีทรองเท้าและบันไดเพื่อการใช้งานร่วมกันอย่างลงตัว

สำหรับเซอร์วิสโซนก็จะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือบริเวณด้านในสำหรับซ่อม เปลี่ยนอะไหล่ต่างๆ หรือประกอบรถด้วยเครื่องมือที่มีมาตรฐาน และบริเวณด้านนอกสำหรับเซอร์วิสล้างรถจักรยานที่ทางน่องโตไบค์การันตีความสะอาดหมดปัญหาคราบสกปรกต่างๆ และความเอาใจใส่ในจักรยานทุกคันที่ทางร้านเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดในแต่ละจุดของจักรยานโดยเฉพาะเพื่อถนอมจักรยานของลูกค้าให้เงางามเหมือนใหม่

ยังคงอยู่บริเวณโซนด้านซ้ายของร้าน ขอแวะพักพาชมยางเสือหมอบที่พี่ฟองคัดสรรมาให้ลูกค้าได้เลือกใช้อย่าง Schwalbe ยางจากประเทศเยอรมันที่ลงทุนครั้งเดียวถือว่าคุ้มค่ากับการใช้งานเพราะมีคุณภาพสูงและการยึดเกาะถนนที่ดี อีกหนึ่งแบรนด์ที่นักปั่นหลายคนเลือกใช้

มาต่อในส่วนของบริเวณโซนด้านขวาของร้านกันบ้าง สำหรับโซนนี้ก็มีสินค้า PRO ให้เลือกเปลี่ยน เลือกอัพเกรดกันอีกแล้วกับสินค้ายอดฮิตอย่าง แฮนด์ สเต็มและเบาะที่กำลังเป็นที่นิยมในวงการจักรยาน ใครที่กำลังเล็งเบาะตัวใหม่อยู่ เบาะ PRO ของทางร้านก็มีให้เลือกหลากหลายเรนจ์ตามงบประมาณและตามการใช้งานของแต่ละคน ที่สำคัญไปกว่านั้นลูกค้ายังสามารถขอทดลองเบาะเทสต์กับทางร้านก่อนเลือกซื้อได้อีกด้วย

#PowersYourPerformance #PowerYourPerformance #UpgradeOutperform #ProBikegear #ProBikegearSEA

ในส่วนของโซนด้านซ้ายยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีเฟรมและล้ออีกมากมายรวมไปถึงจักรยานเสือหมอบหลากหลายรุ่นจาก Giant ที่ร้านน่องโตไบค์เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ใครที่เล็งรถจักรยาน Giant ไว้อยู่ก็สามารถเข้าไปติดต่อสอบถามเลือกซื้อจับจองเป็นเจ้าของกันได้เลย

คอมโพเนนต์ซีรี่ส์ท็อปที่จะช่วยดึง Performance ของคุณออกมาได้ถึงขีดสุด รีดน้ำหนักให้เบาสุดใจกับวัสดุคาร์บอนเกรดสูง เอาใจสายแต่งเบาแต่กระเป๋าหนัก ส่วนถ้าใครงบไม่เยอะมากก็ยังมีรุ่นที่ใช้วัสดุอะลูมิเนียมเกรดสูงให้คุณได้เลือกไปสัมผัส Performance ระดับท็อปได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังได้ลุคเรียบสวยดูพรีเมียม เข้าได้กับเฟรมทุกแบรนด์ มีให้เลือกไปติดตั้งกันได้ครบชุด ทั้งแฮนด์ สเต็ม หลักอาน รวมถึงขาจับไมล์ด้วย

สนใจติดต่อ hahhong.com/dealer/

#PROBikegear #PowerYourPerformance #PowersYourPerformance #UpgradeOutperform #probikegearSEA

แฮนด์ INTEGRATED 

รวมทั้งแฮนด์ทรงแอโร่และสเต็มไว้ในหนึ่งเดียว ผสานอย่างลงตัวทั้ง Performance ระดับเฟิร์สคลาสและความสบาย เป็นชิ้นส่วนที่สมบูรณ์แบบสำหรับอัพเกรดค็อกพิทในฝันของคุณ

VIBE EVO

วัสดุ : UD คาร์บอน
ทรง : Aero
Drop : 132MM
Reach : 80MM
ความยาวแฮนด์ : 38-42CM
ความยาวสเต็ม : 105-125MM
น้ำหนัก : เริ่มต้นที่ 390G
ราคา : 19,000 บาท

แฮนด์คาร์บอน

แฮนด์เสือหมอบวัสดุคาร์บอนจากซีรี่ส์ VIBE มี 3 รุ่น 2 ทรงด้วยกันคือทรง COMPACT แฮนด์ท่อกลมแบบดั้งเดิม ที่ปรับระยะดรอปให้สั้นลงเพื่อให้เปลี่ยนมือมาจับดรอปได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องก้มตัวต่ำมากเมื่อปั่นในท่าจับดรอป และทรง AERO ที่ปรับส่วนบาร์บนให้แบนลงเพื่อให้ลู่ลมมากขึ้น หรือมีความแอโร่มากขึ้นนั่นเอง โดยยังคงมีดรอปแบบ Compact ที่จับง่าย

VIBE CARBON
วัสดุ : UD คาร์บอน
ทรง : Compact
Drop : 130MM
Reach : 80MM
แคลมป์ : 31.8MM
ยาว : 40-44CM
น้ำหนัก : 220-230G
ราคา : 9,800 บาท

VIBE CARBON SUPERLIGHT
วัสดุ : UD คาร์บอน
ทรง : Compact
Drop : 130MM
Reach : 80MM
แคลมป์ : 31.8MM
ยาว : 40-44CM
น้ำหนัก : 175-185G
ราคา : 10,500 บาท

VIBE AERO SUPERLIGHT
วัสดุ : UD คาร์บอน
ทรง : Aero-Compact
Drop : 130MM
Reach : 80MM
แคลมป์ : 31.8MM
ยาว : 38-42CM
น้ำหนัก : 195-205G
ราคา : 13,200 บาท

แฮนด์อะลูมิเนียม

สำหรับแฮนด์เสือหมอบอะลูมิเนียม เป็นทางเลือกให้นักปั่นที่งบน้อยลงมาหน่อย มี 2 ทรงด้วยกันคือทรง COMPACT แฮนด์ท่อกลมแบบดั้งเดิม ที่ปรับระยะดรอปให้สั้นลงเพื่อให้เปลี่ยนมือมาจับดรอปได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องก้มตัวต่ำมากเมื่อปั่นในท่าจับดรอป และทรง AERO ที่ปรับส่วนบาร์บนให้แบนลงเพื่อให้ลู่ลมมากขึ้น หรือมีความแอโร่มากขึ้นนั่นเอง โดยยังคงมีดรอปแบบ Compact ที่จับง่าย

VIBE ALLOY

วัสดุ : 6066 Alloy
ทรง : Compact
Drop : 130MM
Reach : 80MM
แคลมป์ : 31.8MM
ยาว : 38-42CM
น้ำหนัก : 245-255G
ราคา : 2,850 บาท

VIBE AERO ALLOY

วัสดุ : 6066 Alloy
ทรง : Aero-Compact
Drop : 130MM
Reach : 80MM
แคลมป์ : 31.8MM
ยาว : 38-42CM
น้ำหนัก : 330-350G
ราคา : 3,500 บาท

สเต็ม

รองรับการใช้งานร่วมกับ Di2

VIBE STEM

วัสดุ : 7075 Alloy
องศา : -10° / -17°
ยาว : 80-120MM
น้ำหนัก : เริ่มจาก 120G
ราคา : 3,700 บาท

*สำหรับซางขนาดปกติและโอเวอร์ไซส์

VIBE CARBON STEM

วัสดุ : UD คาร์บอน
องศา : ±10°
ยาว : 80-120MM
น้ำหนัก : 130G (100MM)
ราคา : 9,700 บาท

*สามารถใช้งานได้ทั้งแบบเชิดขึ้นและกดลง

หลักอาน 

มีตัวเลือกทั้งแบบหลักอานตรงและหลักอานเยื้องหลัง

VIBE ALLOY SEATPOST

วัสดุ : 2014 Alloy
ยาว : 350MM
ขนาดท่อ : 27.2MM / 31.6MM
เยื้อง : 0MM / 20MM
น้ำหนัก : เริ่มต้นท่ี 230G
ราคา : 2,670 บาท

VIBE Di2 SEATPOST SIDECLAMP

วัสดุ : UD คาร์บอน
ยาว : 400MM
ขนาดท่อ : 27.2MM / 31.6MM
เยื้อง : 0MM / 20MM
น้ำหนัก : เริ่มต้นท่ี 199G
ราคา : 7,100 บาท

ขาจับไมล์

นอกจากคอมโพเนนต์แล้วซีรี่ส์ VIBE ยังมีขาจับไมล์ที่ถูกออกแบบมาให้มีความแอโร่ ได้ลุคเรียบสวย ออกแบบมาเพื่อให้เข้าได้กับแฮนด์ทุกทรงได้อย่างพอดี แม้กระทั่งแฮนด์ทรงแอโร่ที่มีพื้นที่ติดตั้งขาจับไมล์น้อยก็ใช้งานร่วมกันได้

VIBE AERO RACE MOUNT

วัสดุ: 6066-T6 Aluminum
รองรับ: Garmin 1030, 1000, 820, 520, 25, 20
น้ำหนัก: 30G
ราคา: 3,000 บาท