รองเท้าเสือหมอบท็อปคลาสซีรี่ส์ S-PHYRE ขวัญใจนักปั่นโปรทัวร์ รุ่นใหม่ล่าสุด RC902 ที่นอกจากจะมาในลุคสวยพรีเมียมแล้วยังคงความสบายในการสวมใส่ รวมถึงถูกออกแบบและพัฒนาอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้สามารถดึงศักยภาพในการปั่นของคุณออกมาได้ถึงขีดสุด ภายใต้คอนเซปต์ FOCUS ON EVERY DETAIL – FOCUS ON FAST กับ 3 ดีไซน์ใหม่ที่น่าสนใจ

อย่างแรกคือ Function-specific zones ส่วนบนของรองเท้าผลิตจากวัสดุพิเศษในรูปแบบหนังเสริมตาข่าย ที่มีโครงสร้างช่วยให้วางเท้าได้นิ่งขึ้น จึงทำให้สูญเสียแรงปั่นอย่างเปล่าประโยชน์ไปน้อยที่สุด รวมถึงสวมใส่สบายแต่ก็ยังคงความทนทานและระบายอากาศได้ดีอีกด้วย

อย่างที่สองคือ Power transfer optimization เป็นการพัฒนารูปทรงของ Heel cup ให้มีทั้งความยืดหยุ่นเเละสติฟ โดยเสริมแผ่นคาร์บอนบริเวณส้นเท้า ช่วยลดการบิดของส้นเท้าลง ทำให้สามารถรองรับการระเบิดพลังเร่งความเร็วได้เป็นอย่างดี

และอย่างสุดท้ายคือ Engineered fit ที่พัฒนาส่วนบนของรองเท้ามาให้รองรับพอดีได้กับสรีระเท้าทุกแบบ โอบรัดเท้ารอบทิศทางประดุจรังไหม ให้ความรู้สึกสบายในการสวมใส่อย่างสูงสุด มาพร้อมปุ่มปรับกระชับรุ่นใหม่ BOA Li2 ที่สามารถหมุนปรับได้ 2 ทิศทาง จึงปรับกระชับได้ง่าย ละเอียด และรวดเร็ว

รุ่นผู้ชาย สีดำ, แดง, น้ำเงิน, ขาว, DURA-ACE Special Edition

รุ่นผู้หญิง สีขาว

Stiffness 12
Size 36-48
ราคา 11,500 บาท

เลือกซื้อสินค้าและเข้ารับบริการวัดไซส์ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
hahhong.com/dealer/

#imwithshimano #imwithshimanoSEA #RideShimano #RideShimanoSEA #allfortheride #allfortherideSEA

หลายคนเริ่มปั่นจักรยานมาได้สักพักแล้วอยากลองเปลี่ยนมาใช้รองเท้าคลีทเพราะการใช้รองเท้าคลีทช่วยให้การกดและดึงบันไดมีประสิทธิภาพกว่ารองเท้ากีฬาทั่วไป แต่! รู้หรือไม่ว่าการกดบันไดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั้นไม่ได้มาจากรองเท้าที่มี Performance ที่ดีอย่างเดียวเท่านั้น ยังรวมถึงการตั้งคลีทรองเท้าให้ได้ตำแหน่งที่เหมาะสมกับเท้าของเราอีกด้วยเพราะแต่ละคนมีรูปเท้าหรือลักษณะเท้าที่แตกต่างกันออกไป บางคนมีขนาดเท้าทั้ง 2 ข้างที่ไม่เท่ากัน การติดตั้งคลีทด้วยตัวเองจากการกะระยะก็อาจจะทำได้ แต่แน่นอนว่าถ้าตำแหน่งการติดตั้งคลีทไม่ได้องศาหรือตำแหน่งที่เข้ากับเท้าของเราก็อาจก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บได้

คงจะดีไม่ใช้น้อยถ้าเราปั่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและไม่มีอาการบาดเจ็บมารบกวนขณะปั่น ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยเครื่องมือจาก bikefitting.com อย่าง Shoe Cleat Adjuster เครื่องมือตั้งคลีทที่มีมาตรฐานและความแม่นยำมากที่สุด ช่วยให้การตั้งคลีทของคุณง่ายขึ้นเพียงไม่กี่นาทีจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านจักรยานโดยเฉพาะ มั่นใจได้ทั้งในคุณภาพและ Performance ที่ดียิ่งขึ้น

ร้านตัวแทนพร้อมให้บริการติดตั้งคลีทด้วย Shoe Cleat Adjuster

กรุงเทพฯ และปริมณฑล

• TriHub Thailand
• เทพเจริญไบค์
• ลาดปลาเค้าจักรยาน LK Bike
• Bike Zone Bangkok
• Food Fit For Fine
• Herobikeshop Skylane
• The 2nd BIKE
• Speed Moto Max Bike Shop
• Cool Cycling

ภาคกลาง

• Aim Bike
• Ritbike Plus
• แสงอรุณจักรยาน สระบุรี
• ร้านน้องโบว์ อ่างทอง
• Crazie Bike
• Optima Bike
• พงศ์ไบค์ นครปฐม
• Sakornbike SKB
• ร้านเจริญจักรยาน นครปฐม
• Sirinan Bike
• EN-BIKE The Bicycle Shop
• LEX BIKE

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

• Bike Fiction
• Siam Bike – สยามไบค์ นครพนม
• ไบค์ดี ขอนแก่น
• กร จีไบค์ สุรินทร์ GeeBike
• Stream Bike
• DNK Bicycle

ภาคตะวันตก

• Bicycle buffet. by แสงอรุณจักรยาน บ้านโป่ง
• Cycling Cafe Bicycle Shop

ภาคเหนือ

• เอนกไบค์ จำหน่ายจักรยาน อุปกรณ์จักรยาน อัพเกรดจักรยาน
• K Cyling
• Bikehub by Phinhub
• Kaze Bicycle

ภาคใต้

• คลังแสงจักรยาน

#YourOptimalCyclingExperience #bikefittingcom #wearebikefitting #embracecycling #imwithshimano #rideshimano #imwithshimanoSEA #rideshimanoSEA

เลิกงานเหนื่อยๆ เครียดๆ หลายคนมีวิธีกำจัดความเครียดความเหนื่อยด้วยการออกกำลังกาย จักรยานเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่กำลังเป็นที่นิยม และหนึ่งในสถานที่แฮงค์เอ้าท์ยอดฮิตสำหรับนักปั่นไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มเข้าวงการจักรยานหรือนักปั่นน่องเหล็กก็คงจะหนีไม่พ้น Skyland หรือสนามฟ้า แต่ก่อนจะเลี้ยวรถเข้า Skylane เราขอพาทุกคนไปทำความรู้จักร้าน Hero Bike ร้านจักรยานที่มีสินค้าอัดแน่น เซอร์วิสจัดเต็ม เดินทางสะดวกอยู่ห่างจาก Skylane เพียงแค่ 4 กิโลเมตรเท่านั้น!

ร้าน Hero Bike

ที่ตั้ง : ซอยลาดกระบัง 38 แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520
พิกัด : https://goo.gl/maps/v7rRSmwyJMTvNq247
เวลาเปิด-ปิด : 10:00-20:00 น. (จันทร์-ศุกร์) / 09:00-18:00 น. (เสาร์)
โทร : 086-552 6413

#ExcellentBikeCare #imwithshimano #RideShimano #ShimanoServiceCenter #imwithshimanoSEA #RideShimanoSEA  #ShimanoBikeShopGuide #LazerSportSEA #ProBikegearSEA #bikefittingcom

ก่อนเข้าไปดูบริเวณในร้านเรามาทำความรู้จัก “พี่เก๋” เจ้าของร้านฮีโร่ไบค์ที่มาพร้อมสโลแกนประจำร้านน่ารักๆ บริเวณประตูทางเข้า “ไม่จำเป็นต้องซื้อกับเรา.. เรายินดีให้บริการ” ทำให้นักปั่นหรือลูกค้าที่แวะผ่านไปผ่านมารู้สึกไม่เคอะเขินที่จะเดินเข้าไปชมสินค้าในร้านหรือขอคำปรึกษาจากพี่ๆ ทีมฮีโร่ไบค์

เปิดประตูเข้ามา มองตรงไปสิ่งแรกที่จะเห็นเลยคือสินค้าอะไหล่ย่อยจาก SHIMANO ที่มีให้เลือกหลากหลายรายการตั้งแต่คลีทรองเท้าไปจนถึงฮู้ดมือเกียร์/เบรก ใครที่กำลังมองหาอะไหล่ชิ้นใหม่ถือว่าตอบโจทย์มากๆ เพราะมีให้เลือกเกือบจะทุกจุดบนจักรยานเลย นอกจากอะไหล่จำเป็นที่ต้องเปลี่ยนตามกาลเวลาแล้ว บริเวณด้านหลังยังมีตู้ชุดขับเคลื่อนที่มีให้ลูกค้าเชยชมความสวยงามก่อนเลือกซื้อหรือใครที่สนใจจะอัพเกรดชุดขับซีรีส์ไหนก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมกับพี่ๆ ฮีโร่ไบค์ได้เช่นกัน

นอกจากอะไหล่ที่มีให้เลือกช็อปกันบริเวณหน้าทางเข้าแล้ว มองไปทางซ้ายมือจะเห็นสินค้า SHIMANO อย่างรองเท้าคลีท สินค้าจากแบรนด์ PRO แบรนด์ในเครือ SHIMANO ที่กำลังได้รับความนิยมในบรรดาเหล่านักปั่น แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือบริเวณนี้พี่ๆ ทีมฮีโร่ไบค์ได้จัดเตรียมอุปกรณ์หรือตัวช่วยในการเลือกซื้อสินค้าให้คุ้มค่ากับการลงทุนของลูกค้าอย่างเครื่องวัดหาขนาดเบาะสำหรับคนที่สนใจเบาะแต่ไม่รู้ว่าจะต้องเลือกไซส์ไหนดี หรือจะเป็นเครื่องวัดไซส์รองเท้าและเครื่องตั้งคลีทรองเท้าที่ไม่ได้เน้นแค่เรื่องตำแหน่งที่ถูกต้องอย่างเดียวแต่ยังช่วยให้การกดลูกบันไดมีประสิทธิภาพมากที่สุดและหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บได้อีกด้วย

สำหรับโซนรองเท้าก็มีรองเท้าให้ลูกค้าได้เลือกชมเลือกช็อปกันตั้งแต่รุ่นท็อป สี limited ไปจนถึงรุ่นเริ่มต้นสำหรับนักปั่นมือใหม่ที่อยากอัพเกรด Performance การปั่นของตัวเองให้ดีกว่าเดิม สนุกกว่าเดิม และอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าตัวช่วยอย่าง เครื่องวัดไซส์รองเท้าและเครื่องตั้งคลีทรองเท้าจะช่วยให้การตัดสินใจซื้อของคุณง่ายยิ่งขึ้น ได้สินค้าที่ถูกใจพร้อมบริการสุดประทับใจอีกด้วย

บริเวณข้างๆ กันก็มีสินค้าในเครืออย่าง PRO ให้เลือกทั้ง Accessory และคอมโพเนนท์ต่างๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง แฮนด์ สเต็มและหลักอาน สินค้า Rare item ที่นักปั่นหลายต่อหลายคนตามหาเพื่อจับจองเป็นเจ้าของเพราะ PRO ขึ้นชื่อในเรื่องของ Performance ที่ดี ราคาเข้าถึงง่ายพร้อมคุณภาพที่คุ้มเกินราคา

ไอเท็มสำคัญลำดับต้นๆ ของการขับขี่จักรยานที่ทุกคนควรต้องมี คือ หมวกจักรยาน แต่หมวกจักรยานที่พี่เก๋และทีมฮีโร่ไบค์เลือกมาจำหน่ายจะต้องมั่นใจได้ทั้งเรื่องคุณภาพและแน่นอนว่าความปลอดภัยที่ต้องมาควบคู่กัน พี่ๆ ทีมฮีโร้ไบค์เลยเลือกแบรนด์ LAZER ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องความสวยงาม คุณภาพและยังรับรองความปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับสากลจาก CE – CPSC – AS มั่นใจได้เลยว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุหมวก LAZER จะเป็นเหมือนเกราะป้องกันไม่ให้คุณได้รับบาดเจ็บสาหัส สำหรับหมวก LAZER ที่ร้านก็มีให้เลือกหลากหลายเรนจ์ราคาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงรุ่น High Performance หรือจะเป็นหมวกเสือภูเขาสำหรับสายลุยเข้าป่าที่ต้องการหมวกที่ครอบคลุมศีรษะได้เป็นอย่างดีก็มีให้บริการเช่นกัน

เดินดูสินค้าบริเวณทางด้านซ้ายมือของร้านกันไปหมดแล้ว ขอพาทุกคนย้อนมาดูทางบริเวณหน้าร้านกันอีกครั้ง โดยบริเวณนี้จะเป็นโซนเซอร์วิสจักรยานที่มี “ช่างเจ๋ง” ช่างมือหนึ่งประจำร้าน จะเปลี่ยนอะไหล่รถดิสก์เบรก ริมเบรก หรือชุดขับระบบไฟฟ้า Di2 รถเสือหมอบ รถไตรหรือรถเสือภูเขาก็มั่นใจได้เลยว่ารถที่มีปัญหาขัดข้องจะสามารถกลับมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพพร้อมซิ่งอีกครั้งจากช่างเจ๋งหรือ “ฮีโร่” ประจำร้านนั่นเอง

นักปั่นสาย Night Ride ที่กำลังลังมองหาไฟจักรยานเพื่อมาช่วยเสริมความปลอดภัยทางร้านก็มีไฟจาก CATEYE ขึ้นชื่อเรื่องของความแข็งแรง ทนทาน และคุณภาพอัดแน่นจัดเต็มจากญี่ปุ่น มีให้เลือกทั้งไฟหน้าและไฟท้าย จะใช้ส่องสว่างหรือใช้เป็นไฟสัญญาณก็ตอบโจทย์เพราะมีค่าลูเมนให้เลือกหลากหลายตามสไตล์การปั่นของแต่ละคน

ตรงข้ามกับโซนไฟจักรยาน CATEYE จะมียางเสือหมอบจาก Schwalbe ให้ได้เลือกช็อปกันอีกด้วย ยางเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้ามเพราะถือว่าเป็นหนึ่งในตัวขับขี่จักรยาน การเลือกใช้ยางที่มีคุณภาพดีจะช่วยให้รถของขึ้นขับขี่ได้อย่างลื่นไหล แถมยังมีความทนทานใช้งานได้นาน 2 รุ่นยอดฮิตขายดีตลอดกาลอย่าง PRO ONE และ ONE ก็มีพร้อมจำหน่าย

ดูสินค้าทุกจุดทุกซอกทุกมุมกันมาครบแล้ว มาดูในส่วนของจักรยานกันบ้างดีกว่า สำหรับจักรยานเสือหมอบแบรนด์หลักๆ ที่ทางร้านนำเข้ามาจำหน่ายก็จะเป็น Bianchi / Giant / Cervelo และจักรยานเสือภูเขาก็มีให้เลือกทั้ง Scott และ TREK ใครที่กำลังมองหารถคันใหม่ก็สามารถเข้าไปเลือกเข้าไปลองกันได้ หรือนักปั่นมือใหม่ที่อยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องจักรยานก็ไม่ต้องกังวลใจหรือเคอะเขินที่จะเข้าไปสอบถามกับที่ร้าน เพราะที่ฮีโร่ “ไม่จำเป็นต้องซื้อกับเรา.. เรายินดีให้บริการ”

#ExcellentBikeCare #imwithshimano #RideShimano #ShimanoServiceCenter #imwithshimanoSEA #RideShimanoSEA

นอกจากเลือกซื้อหมวกจักรยานที่มีคุณภาพได้มาตรฐานแล้ว การใส่หมวกให้ปลอดภัยยังควรเลือกหมวกที่สวมได้พอดีกับศีรษะ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาหมวกจะได้ไม่เลื่อนหลุดตามแรงล้ม และสามารถปกป้องศีรษะของเราได้อย่างเต็มที่ โดยการเลือกไซส์หมวกที่เหมาะสม ให้วัดจากขนาดรอบศีรษะ ตำแหน่งบริเวณกลางหน้าผาก (ตามรูป) หน่วยเป็นเซนติเมตร สำหรับหมวก LAZER สามารถเลือกหมวกไซส์ต่างๆ ให้เหมาะสมกับขนาดรอบศีรษะได้ดังนี้

ไซส์ S  ขนาดรอบศีรษะ 52 – 56 cm

ไซส์ M  ขนาดรอบศีรษะ 55 – 59 cm

ไซส์ L  ขนาดรอบศีรษะ 58 – 61 cm

ดูวิธีวัดไซส์หมวกจักรยานเพิ่มเติม : https://bit.ly/LAZERHelmetSizing

ชมหมวก LAZER รุ่นต่างๆได้ที่
https://hahhong.com/products/lazer/

หากวัดเองแล้วไม่มั่นใจ สามารถติดต่อขอเข้ารับบริการวัดไซส์ รวมถึงสั่งซื้อหมวก LAZER ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
https://hahhong.com/dealer/

#LazerSportSEA #UseYourHead #allfortherideSEA

อย่างแรกที่ต้องมีแน่นอนคือความปลอดภัย นอกจาก SPHERE จะได้รับการรับรองมาตรฐานสากลถึง 3 อย่างคือ CE – CPSC – AS แล้ว ยังได้คะแนน 5 ดาวจาก Virginia Tech Helmet Testing ของอเมริกาอีกด้วย รวมถึงมี Polycarbonate bottomshell ที่ช่วยป้องกันการกระแทกได้มากขึ้น และมีความพรีเมียมใกล้เคียงกับรุ่นท็อปอย่าง Genesis

ในด้านของ Performance ก็ไม่น้อยหน้า เพราะถูกออกแบบโดยคำนึงถึงทิศทางลมเข้าขณะก้มตั่วปั่น จึงวางระบบระบายอากาศให้สามารถรับลมได้ดีที่สุด ทำให้มีทั้งการระบายอากาศที่ดี เย็นสบายศีรษะตลอดการปั่น และเพิ่มความแอโร่ขึ้นไปอีกด้วย

นอกจากนี้ยังออกแบบมาให้สามารถเสียบเก็บแว่นด้านหน้าได้โดยง่าย จึงสะดวกยิ่งขึ้นเวลาออกไปปั่น และระบบปรับกระชับ Advanced Rollsys® System ยังมีพื้นที่สำหรับนักปั่นสาวๆ หรือใครที่ผมยาว สามารถมัดรวบผมไว้ด้านหลังได้โดยไม่ชนตัวหมวกให้รำคาญเลย

สี ขาว, ดำด้าน, ฟ้า, แดง
ขนาด S, M, L
ราคา 3,900 บาท

สี Blue Haze, Matte Titanium, Deep Ocean, Light Blue Sunset
ขนาด S, M, L
ราคา 4,200 บาท

สนใจติดต่อ https://hahhong.com/dealer/

#UseYourHead #LazerSportSEA

นอกจากการอัพเกรดชุดขับให้มี Performance ที่ดีขึ้น เร็วขึ้นหรือแรงขึ้น อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือการดูแลรักษาชุดขับเคลื่อนและรถจักรยานของเราให้มีสภาพที่พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะคนที่มีแพลนจะออกทริปไกลๆ หรือออกงานอีเว้นท์ ทุกส่วนบนจักรยานเป็นเรื่องละเอียดอ่อนอะไหล่บางจุดอาจต้องเข็นรถเข้าร้านจักรยานให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลแก้ไข

นักปั่นย่าน #ลาดพร้าว #โชคชัย4 หมดกังวลเรื่องจักรยานเพราะที่ร้านเทพเจริญไบค์นอกจากมีสินค้าอัดแน่นจัดเต็มแล้ว ยังมีการเซอร์วิสจาก “พี่แบงค์” เจ้าของร้านที่ลงมือให้บริการซ่อมจักรยานให้กับลูกค้าด้วยตัวเองทุกเคส ได้รับความนิยมในหมู่นักปั่นในย่านลาดพร้าว-โชคชัย 4 ด้วยความที่พี่แบงค์เป็นกันเอง แนะนำเรื่องจักรยานอย่างตรงไปตรงมาจึงได้ใจลูกค้าไปเต็มๆ ส่วนเคล็ดลับการได้ใจลูกค้าพี่แบงค์ก็มีการอัพเดตข้อมูลเรื่องจักรยานอยู่ตลอดเวลารวมถึงเข้าร่วมอบรมในส่วนของภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคนิคการซ่อมทั่วไปจนไปถึงการเซอร์วิสชุดขับเคลื่อนระบบไฟฟ้า Di2 ไม่ว่าจะรุ่น 11-SPEED หรือรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง DURA-ACE & ULTEGRA 12-SPEED

นอกจากอัพเดตความรู้ให้ทันต่อโลกจักรยานแล้ว หัวใจสำคัญคือประสบการณ์การเซอร์วิสจักรยานด้วยใจรักที่คลุกคลีในวงการจักรยานมานานนับหลายปีของพี่แบงค์จนได้รับความไว้วางใจจากทั้งลูกค้าและทาง Shimano จนได้รับ Authorization ให้เป็น Shimano Service Center

รถมีปัญหาขับไปแล้วรู้สึกติดๆ ขัดๆ คว้าจักรยานคู่ใจไปร้านเทพเจริญไบค์ได้เลยหรือใครอยากได้คำแนะนำ คำปรึกษาเรื่องจักรยานพี่แบงค์ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนเพราะการันตีคุณภาพการเซอร์วิสจักรยานว่ามีมาตรฐานระดับสากลทั้งในเครื่องมือและการให้บริการจาก Shimano

ร้านเทพเจริญไบค์
ที่ตั้ง: 260 ถ. โชคชัย 4 แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310
พิกัด : google map
เวลาเปิด-ปิด :  9:00-18:30 น. (จันทร์-เสาร์)
โทร : 081-695 3327

#rideshimano #imwithshimano #rideshimanoSEA #imwithshimanoSEA #ExcellentBikeCare #WorldClassBikeService

เมื่อเริ่มปั่นมาได้สักพักนักปั่นบางคนอาจรู้สึกปั่นได้ไม่สบายตัวมีอาการปวดเมื่อยหรือชาตามอวัยวะต่างๆ หรือรู้สึกว่าตัวเองน่าจะปั่นได้แรงกว่านี้ บางคนลองเปลี่ยนคอมโพเนนท์เพื่อลดอาการบาดเจ็บ บางคนมุ่งเน้นไปที่การฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อให้มี Performance ที่ดีขึ้น แต่นั่นอาจเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ จะดีกว่าไหมถ้าเราได้รู้ถึงต้นตอของอาการบาดเจ็บและโฟกัสได้อย่างถูกจุดในเรื่องของการส่งแรงอย่างมีประสิทธิภาพ “แล้วจะทำยังไงดีล่ะ?” คำถามนี้มีคำตอบด้วยเครื่อง Pedal Analyzer เครื่องวิเคราะห์การปั่นที่สามารถหาต้นตอของอาการบาดเจ็บได้ทุกสัดส่วนของร่างกาย รวมถึงจุดที่เราสามารถพัฒนาฟอร์มการปั่นของเราให้ดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย เรามาดูกันว่าถ้าเราทำไบค์ฟิตติ้งกับเจ้าเครื่อง Pedal Analyzer จะคุ้มค่าแค่ไหนแล้วเราจะได้อะไรกลับไปบ้าง

#Bikefittingcom #YourOptimalCyclingExperience

แก้ปัญหาอาการบาดเจ็บได้อย่างตรงจุด

ปวดคอ บ่า ไหล่ เจ็บก้น ชาบริเวณปลายมือ-ปลายเท้า หลายคนอาจเจอปัญหานี้กันไม่มากก็น้อยขณะปั่น ลองเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อจะแก้ปัญหาอาการบาดเจ็บด้วยตัวเองโดยเฉพาะการเลือกซื้อเบาะใหม่ แน่นอนว่าอาจตอบโจทย์สำหรับนักปั่นบางคน แต่เครื่อง Pedal Analyzer (PA) ให้อะไรมากกว่านั้นเพราะเครื่องตัวนี้สามารถวิเคราะห์ค่าต่างๆ หรือองศาการติดตั้งของอุปกรณ์ของคุณให้มีตำแหน่งที่เหมาะสม ขยับเพียงหน่วยมิลลิเมตรก็สามารถช่วยลดอาการบาดเจ็บของคุณได้แล้ว เครื่อง PA ไม่ได้วัดหรือปรับตำแหน่งเฉพาะเบาะเท่านั้น ยังรวมถึงการปรับตำแหน่งและองศาของแฮนด์ สเต็ม หลักอานและตำแหน่งการติดตั้งคลีทว่ามีตำแหน่งที่เหมาะสมเข้ากับสรีระของเราหรือไม่ ทุกสัดส่วนของร่างกายเชื่อมโยงกันหมดเมื่อปรับตำแหน่งจุดหนึ่งจุดอื่นๆก็จะต้องปรับให้สอดคล้องกันเพื่อการปั่นที่คล่องตัวของเรา อาการบาดเจ็บจากการปั่นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องมีตัวช่วยและผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาช่วยแก้ปัญหาอาการบาดเจ็บ เปรียบเสมือนการที่เราเจ็บป่วยก็ต้องไปหาหมอเพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี

พัฒนาการปั่นให้มี Performance ที่ดีกว่าเดิม

เมื่อเราปรับตำแหน่งคอมโพเน้นท์ต่างๆ ให้เข้าที่เข้าทางตามสรีระของเราให้รู้สึกปั่นได้สบายตัวมากที่สุดแล้ว Pedal Analyzer ยังช่วยวิเคราะห์แรงกดหรือตำแหน่งการกดลูกบันไดว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหนได้อีกด้วย องศาของหัวเข่าขณะปั่นว่ามีการกางออกหรือบิดเข้ามากเกินไปจนทำให้แรงกดลูกบันไดไม่เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงแรงกดบริเวณบันไดว่าน้ำหนักตอนกดบันไดกระจายไปในทิศทางไหน บอกได้ถึงขั้นว่าองศาไหนเราใช้แรงได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดและแรงดึงที่มาเบรคการกดบันไดได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ (Brake Force) เมื่อรู้แล้วว่าแรงกดของเรามีประสิทธิภาพในตำแหน่ง/องศาไหนก็จะช่วยให้เราโฟกัสและออกแรงได้อย่างถูกจุด Pedal Analyzer ยังมี report วัดค่า ตำแหน่งและองศาต่างๆ ของเราให้อีกด้วยว่าการทำฟิตติ้งครั้งนี้เรามีการพัฒนาไปมากน้อยแค่ไหนและ report นี้ยังช่วยให้เรานำข้อมูลต่างๆ ไปพัฒนาต่อยอดเพื่อการฝึกซ้อมเพิ่ม Performance ให้ดีขึ้นได้อีกด้วย

คุ้มค่าราคา มั่นใจในคุณภาพ

อย่างสุดท้ายคือเรื่องของความคุ้มค่าในการทำไบค์ฟิตติ้งด้วยเครื่อง Pedal Analyzer ที่ลงทุนครั้งเดียวบอกได้เลยว่าคุ้มค่าสุดๆ ทั้งในเรื่องของเครื่องมือที่บอกค่าการปรับตำแหน่ง องศาได้อย่างละเอียดแม่นยำ ระบบ software ที่ทาง Bikefitting.com ได้รวบรวมข้อมูลสถิติการฟิตติ้งต่างๆจากนักปั่นทั่วโลกมาอัพเดตข้อมูลแบบ Real-time update ให้มีความเหมาะสมอยู่ตลอดเวลา และฟิตเตอร์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ที่จะช่วยแก้ปัญหาอาการบาดเจ็บต่างๆ ของคุณให้หายไปพร้อมกับฟอร์มการปั่นที่ดียิ่งขึ้น ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าทุกบาททุกสตางค์ที่เสียไปให้กับการทำฟิตติ้งค์ครั้งนี้คุ้มค่าแน่นอน

ตัวแทนให้บริการ Pedaling Analysis จาก bikefitting.com

— กรุงเทพและปริมณฑล —

• TriHub
• LK Bike

— ภาคเหนือ —

• Kaze Bicycle

— ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ —

• เจริญจักรยานดี ขอนแก่น

— ภาคใต้ —

• คลังแสงจักรยาน

SHIMANO ใช้เวลาแรมปีเพื่อทุ่มเทพัฒนาและยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับชุดขับเสือหมอบ เพื่อให้นักปั่นที่ใช้ชุดขับของเราได้สัมผัสประสบการณ์การปั่นที่ดีกว่าเดิม และสนุกสนานเพลิดเพลินไปในทุกเส้นทางปั่นได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น! เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ถูกใส่ไว้ในชุดขับตัวท็อปอย่าง DURA-ACE เองก็ถูกท่ายทอดมาสู่รุ่นน้องอย่าง ULTEGRA แบบไม่มีผิดเพี้ยน ซึ่งสิ่งที่ ULTEGRA แตกต่างจาก DURA-ACE จะเป็นเรื่องของวัสดุและการเก็บงานการผลิตที่อาจจะไม่ได้พรีเมียมสุดๆเท่าตัวท็อป แต่นั่นก็ทำให้นักปั่นสามารถเข้าถึง ULTEGRA ได้ง่ายกว่า

ในครั้งนี้ชุดขับ ULTEGRA R8100 มาในลุคใหม่ Di2 แบบ Wireless ที่มี Cockpit สะอาดสะอ้านสบายตา พร้อมระบบเกียร์ 12 SPEED ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงมีระบบเบรกที่ละเอียดขึ้น เงียบขึ้น จนเรากล้าพูดว่าดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

• ULTEGRA R8100 Di2 Rim Brake 70,820 บาท
• ULTEGRA R8100 Di2 Disc Brake 82,000 บาท

ราคารวมโซ่ ใบดิสก์ สายไฟ แบตเตอรี่ และสายชาร์จ

Di2 แพลตฟอร์มใหม่

ULTEGRA R8100 เป็นชุดขับพร้อมชุดเกียร์ Di2 หรือเกียร์ไฟฟ้าเท่านั้น โดยไม่มีตัวเลือกชุดเกียร์แบบเมคานิคส์แล้ว มาในแพลตฟอร์มใหม่สั่งการชิฟเตอร์ผ่าน Wireless (เฉพาะ Disc Brake) มีทั้งความปลอดภัยสูง กินพลังงานต่ำ มีสัญญาณรบกวนน้อย และเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นอีกด้วยการเชื่อมต่อตีนผีกับแบตเตอรี่และสับจานหน้าผ่านสายไฟ ซึ่งตีนผีตัวใหม่สามารถตอบสนองได้ไวขึ้นถึง 58% และสับจานหน้าก็ทำงานได้ไวขึ้นอีก 45% นอกจากนี้ยังลดความยุ่งยากในการติดตั้งและใช้งานลง โดยรวมอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ในตีนผีที่เดียว ทั้ง Junction A, ที่ชาร์จแบตเตอรี่, ตัวส่งสัญญาณ Bluetooth และ ANT+ หรือ D-FLY รวมถึงปรับเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่แค่ก้อนเดียว เวลาเซอร์วิสจึงทำได้ง่าย และหากนักปั่นท่านไหนไม่อยากใช้งานแบบ Wireless อยากเชื่อมต่อผ่านสายเคเบิ้ล ก็สามารถเลือกใช้งานได้เช่นกัน โดยการเชื่อมต่อแบบสายยังใช้พลังงานน้อยกว่าระบบ Wireless ถึง 50% หากเกิดอุบัติเหตุจนสายเคเบิ้ลเสียหาย ระบบก็จะสลับไปใช้งานแบบ Wireless อัตโนมัติ ให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจมากกว่าเดิม

Interface ใหม่

ไม่ใช่เพียงแค่ Performance เท่านั้น แต่เรายังมุ่งมั่นพัฒนา Comfort หรือความสบายให้กับนักปั่น โดยปรับดีไซน์ฮู้ดตามหลักสรีระศาสตร์ให้โค้งเข้ารับกับข้อมือและมีความสูงมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะทำให้จับสบายมือแล้วยังช่วยให้คอนโทรลรถได้ง่าย ระยะ Reach เองก็ถูกปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงทำให้วางมือได้กระชับ กำได้เต็ม 3 นิ้ว ส่วนของปุ่มก็ยาวขึ้น เพื่อให้สามารถกดเปลี่ยนเกียร์ขณะจับดรอปได้ง่าย แล้วยังเพิ่ม Offset ของปุ่มเกียร์ให้ต่างกันมากขึ้นด้วย เวลาสัมผัสจึงแยกปุ่มได้ง่าย แม้จะใส่ถุงมือหรือสัมผัสด้วยมือเปียกก็ตาม นอกจากนี้ระบบ Di2 แบบ Wireless ยังทำให้ Cockpit ลุคใหม่ของ ULTEGRA R8100 ดูเรียบร้อยสะอาดตาขึ้น เพราะพอร์ตสายเกียร์ต่างๆและอุปกรณ์ชิ้นเล็กชิ้นน้อยถูกตัดออกไป แต่ยังคงไว้ด้วยลูกเล่นหลากหลายให้คุณสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการใช้งาน ทั้งสวิตช์เสริมและการตั้งค่าเปลี่ยนเกียร์หรือปุ่มกด ก็ยังคงทำได้ผ่าน E-TUBE Project เช่นกัน

ระบบเกียร์ใหม่ 12 SPEED

ULTEGRA R8100 ปรับระบบเกียร์ใหม่เป็นแบบ 12 SPEED โดยยังคงใช้เฟืองใบเล็กสุดขนาด 11T แต่ปรับแต่งเกียร์ช่วง Sweet Spot หรือช่วงเกียร์เรนจ์กลางๆ ที่ถูกใช้งานมาก ให้เกียร์มีความละเอียดมากขึ้น เมื่อเปลี่ยนเกียร์จึงรู้สึกสมูทลื่นไหล รอบขาไม่กระตุก ไม่มีอาการขาวืด แล้วยังนำระบบ Hyperglide+ จากชุดขับ MTB 12 SPEED เข้ามาใช้งาน ทำให้ได้ทั้งความนุ่มนวลลื่นไหล แม่นยำ และตอบสนองได้รวดเร็วไม่ว่าจะเปลี่ยนเกียร์ขึ้นหรือลง

โดยเฟืองใหม่ 12 SPEED นี้ออกแบบโปรไฟล์ส่วนโม่มาให้สามารถใช้งานร่วมกับชุดล้อ 11 SPEED เดิมได้ทันที มีตัวเลือกเฟืองขนาด 11-30T และ 11-34T ในส่วนของจานหน้ามีให้เลือกทั้งแบบขาจานปกติ และขาจาน Power Meter แบบใหม่ที่มีความแม่นยำมากขึ้นในอัตรา ±1.5% รวมถึงมีระบบชดเชยอุณหภูมิอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้สามารถวัดค่าได้แม่นยำยิ่งขึ้นด้วย มาในขนาด 50-34T และ 52-36T ตัวสับจานเองก็ถูกปรับปรุงใหม่ให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้นเช่นกัน และยังถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กลง 33% และมีน้ำหนักเบาลงเหลือเพียง 96G เท่านั้น

ปรับปรุงระบบเบรก

ระบบดิสก์เบรกใหม่ใน ULTEGRA R8100 ยังคงใช้เทคโนโลยี SERVO WAVE Action ที่คาลิเปอร์สามารถทำการจับใบดิสก์ได้อย่างรวดเร็วและนุ่มนวล แต่พัฒนาให้มีระยะ Free Stroke สั้นลงกว่ารุ่นก่อน จึงตอบสนองได้ไวยิ่งขึ้น แล้วยังทำให้มีพื้นที่ในการควบคุมเบรกมากขึ้นอีกด้วย จึงสามารถไล่ระดับการกดเบรกได้ละเอียดกว่า คอนโทรลรถได้แม่นยำกว่าเดิม

นอกจากนี้ยังมีการปรับระยะระหว่างผ้าเบรกให้กว้างขึ้น 10% ช่วยลดการเสียดสีของผ้าเบรกกับใบดิสก์ จึงช่วยลดเสียงกระทบลงได้ รวมถึงช่วยลดอุณหภูมิที่เกิดจากการเสียดสีลงด้วย โดยใช้งานคู่กับใบดิสก์ MTB รุ่น RT-MT900 สามารถลดอุณหภูมิลงได้ถึง 66% แล้วยังมีการปรับดีไซน์เปลี่ยนตำแหน่งพอร์ตน้ำมันให้สามารถเติมและไล่น้ำมันเบรกได้โดยไม่ต้องถอดคาลิเปอร์ออกจากตัวรถ ช่วยให้การเซอร์วิสง่ายขึ้น นอกจาก Disc Brake แล้วยังมี Rim Brake เป็นตัวเลือกให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

ล้อ Full Carbon High Performance

ครั้งแรกของ ULTEGRA ที่ผลิตชุดล้อแบบ Full Carbon มีให้เลือกใช้งานในแบบ Tubeless สำหรับ Disc Brake มาใน 3 ซีรี่ย์คือ C36, C50 และ C60 โดยทั้งหมดถอด DNA มาจากตัวท็อปอย่าง DURA-ACE ให้นักปั่นสามารถเข้าถึงชุดล้อ High Performance ได้ง่ายยิ่งขึ้น และที่สำคัญ ยังคงใช้โม่ล้อแบบเดิม จึงสามารถใช้งานได้กับทั้งชุดขับ 11-SPD เดิม และรองรับชุดขับ 12-SPD ใหม่ด้วย

ชุดล้อใหม่นี้ถูกพัฒนาควบคู่กันไปทั้ง 3 ด้านคือแอโร่ไดนามิค ความแข็งแรง และน้ำหนักเบา โดยออกแบบโปรไฟล์ขอบล้อใหม่เป็นแบบเดียวกับชุดล้อ DURA-ACE ทำให้สามารถลด Drag และช่วยเซฟวัตต์ลงไปได้ นอกจากนี้ยังบาลานซ์แต่ละคุณสมบัติให้ชุดล้อทั้ง 3 ซีรี่ย์มีลักษณะเด่นที่แตกต่างกัน

• C36 โดดเด่นในเรื่องน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับนักปั่นที่ชอบไต่เขา มีน้ำหนักโดยรวมอยู่ที่คู่ละ 1,481G เท่านั้น
• C50 ล้อสาย All-Round เป็นล้อที่คุณสมบัติสมดุลกันทั้งเรื่องความแอโร่ ความแข็งแรง และน้ำหนักเบา ใช้งานได้หลากหลาย ให้อัตราเร่งที่ดี และยืนความเร็วได้ดี มีน้ำหนักโดยรวมอยู่ที่คู่ละ 1,562G
• C60 ชุดล้อที่โดดเด่นเรื่องความแอโร่ ลดแรงต้านลมได้ดีทั้งด้านหน้าและด้านข้าง เหมาะสำหรับสายปริ้นท์ แข็งแกร่งและมีค่าความสติฟมากกว่าซีรี่ย์อื่นๆ เพื่อรองรับการปั่นหนักๆ หรือการใช้งานที่ความเร็วสูง มีน้ำหนักโดยรวมอยู่ที่คู่ละ 1,642G

เมื่อเริ่มปั่นจักรยานจนคุ้นชิน เชื่อว่านักปั่นหลายท่านคงเริ่มมองหาลู่ทางการอัพเกรดอุปกรณ์เพื่อให้ปั่นได้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งตัวเลือกที่เห็นผลที่สุดในการอัพเกรดจักรยานก็คงหนีไม่พ้น “ชุดขับ” การขยับไปใช้งานชุดขับในรุ่นสูงขึ้นช่วยให้ Performance ของคุณดีขึ้นได้ ทั้งประสิทธิภาพเกียร์ที่ดีขึ้น ตอบสนองไว้ขึ้น รวมถึงเบรกที่ดีกว่าเดิมทำให้คอนโทรลรถได้ละเอียดขึ้นนอกจากนี้การเปลี่ยนไปใช้ชุดขับที่มีเรนจ์เกียร์กว้างขึ้น ยังช่วยให้คุณสนุกสนานกับการปั่นได้ด้วยตัวเลือกการใช้งานที่มากกว่าเดิมอีกด้วย

และชุดขับน่าอัพเกรดที่จะมาตอบสนองความต้องการของคุณ ทั้งในแง่ประสิทธิภาพ คามง่ายต่อการเซอร์วิส และราคาที่จับต้องได้ ก็คือ ULTEGRA R8000 11 SPEED นั่นเอง ถึง SHIMANO จะเพิ่งเปิดตัวชุดขับใหม่ที่เป็น Di2 ล้วนๆ แต่ก็ยังไม่ได้ทอดทิ้งชุดขับเกียร์เมคานิคส์อย่างแน่นอน และนี่ก็คือ 3 เหตุผลว่าทำไม ULTEGRA R8000 ยังคงน่าอัพเกรดอยู่

ULTEGRA R8000 11-SPD (Rim brakes) ราคา 24,500 บาท
ULTEGRA R8000 11-SPD (Disc brakes) ราคา 29,900 บาท

#imwithshimano #imwithshimanoSEA #RideShimano #RideShimanoSEA #allfortheride #allfortherideSEA

Performance ยอดเยี่ยม

หากคุณต้องการชุดขับที่เต็มเปี่ยมไปด้วย Performance ระดับสูง ULTEGRA R8000 สามารถตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างแน่นอน ทั้งชุดขับ Rim brakes และ Disc brakes ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่คล้ายคลึงกับ DURA-ACE จึงทำให้ ULTEGRA เกียร์เมคานิคส์ 11 SPEED มีทั้งความสเถียรและประสิทธิภาพสูงมากพอสำหรับใช้ในการแข่งขัน ในส่วนที่ด้อยกว่า DURA-ACE จะเป็นเรื่องของน้ำหนักที่ ULTEGRA จะหนักกว่าเพราะใช้วัสดุต่างกัน

วัสดุคุณภาพกับอะไหล่ที่หาได้ง่าย

ULTEGRA R8000 มีการนำวัสดุ Carbon-fiber เข้ามาผสมในการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ เช่น มือเกียร์และเฟือง จึงทำให้มีน้ำหนักเบาลง อยู่ที่ทั้งชุด (Rim brakes) 2,273 กรัมเท่านั้นนอกจากนี้อะไหล่ของ ULTEGRA ยังหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า SHIMANO ไม่ได้ทอดทิ้งชุดขับเกียร์เมคานิคส์ หากเสียหรือชำรุดขึ้นมาจึงไม่ต้องกังวลเลย เดินเข้าไปในร้านยังไงก็มีของให้เซอร์วิสแน่นอน รวมถึงมี option ขาจานและเฟืองให้เลือกใช้เยอะตามสไตล์การปั่นอีกด้วย

ราคาเอื้อมถึง

สำหรับนักปั่นที่ไม่ได้ต้องการเสพความพรีเมียม ชุดขับ ULTEGRA R8000 Rim brakes ราคา 24,500 บาท และ Disc brakes ราคา 29,900 บาท จัดเป็นราคาที่เลยเรนจ์กลางๆขึ้นมาหน่อย แต่ถ้าเทียบกับ Performance ที่จะได้แล้วก็ถือว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผล ทั้งในแง่ของวัสดุคุณภาพสูงและความประณีตในการผลิต รวมออกมาเป็นชุดขับที่แข็งแรงทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไปอย่างแน่นอน