ใหม่! SHIMANO RC502 รองเท้าจักรยานสายแฟชั่น แมทช์ได้ทุกลุค

รองเท้าเสือหมอบ Mid-range ที่โดดเด่นเรื่องความสวยงามเหมาะกับสายแฟชั่น วันนี้มาในลุคใหม่สะดุดตากว่าเดิม ภายใต้ Performance ที่สูงใกล้เคียงกับรุ่นพี่ พร้อมเทคโนโลยีมากมาย คิดค้นมาเพื่อคนคลั่งไคล้การปั่นจักรยานเช่นคุณ!

ส่วนบนผลิตจากวัสดุที่มีความพรีเมียมมากขึ้นใกล้เคียงรุ่นท็อปอย่าง S-PHYRE RC9 ทั้งทนทาน น้ำหนักเบา และระบายอากาศได้ดี เพิ่มความยาวของแถบ BOA และปรับเปลี่ยนแพทเทิร์นการตัดเย็บใหม่เพื่อให้สวมใส่ได้กระชับยิ่งขึ้น ปรับกระชับได้ครอบคลุมด้วยปุ่ม BOA L6 ที่จับคู่กับสายรัดช่วงโคนนิ้วเท้า

 

พื้นรองเท้าเป็นคาร์บอนผสมไนลอนที่น้ำหนักเบา มีค่า Stiff 8 ช่วยส่งแรงกดไปยังบันไดได้เป็นอย่างดี

 

เลือกแมทช์กับชุดได้หลากหลายสีสัน

ผู้ชาย สี ขาว-ดำ, น้ำเงิน-ดำ, ดำ
SIZE: 38-47
ราคา: 4,200 บาท

 

ผู้หญิง สี ดำ, เทอควอยซ์-ดำ, ขาว
SIZE: 36-39
ราคา: 4,200 บาท

 

#imwithshimano #imwithshimanoSEA #RideShimano #RideShimanoSEA #allfortheride #allfortherideSEA

ใหม่! SHIMANO RC502 รองเท้าจักรยานสายแฟชั่น แมทช์ได้ทุกลุค2021-10-07T15:54:45+07:00

SHIMANO BIKE SHOP GUIDE : เทพเจริญไบค์

SHIMANO BIKE SHOP GUIDE วันนี้จะพาทุกคนไปทัวร์ร้านย่าน #ลาดพร้าว #โชคชัย4 ในรูปแบบออนไลน์เช่นเคยกับร้าน เทพเจริญ หนึ่งใน Shimano Point ของเราที่มีสินค้าจักรยานครบเครื่อง เซอร์วิสครบครันพร้อมให้บริการลูกค้าทุกคนโดยเจ้าของร้านสุดน่ารัก อัธยาศัยดี ‘พี่แบงค์-พี่กี้’ ที่คอยสลับสับเปลี่ยนกันดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึง เราไปดูข้างในร้านพร้อมพี่แบงค์กันเลย!

ร้านเทพเจริญไบค์

ที่ตั้ง: 260 ถ. โชคชัย 4 แขวง สะพานสอง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310
แผนที่: google map
เวลาเปิด-ปิด :  9:00-18:30 น. (จันทร์-เสาร์)
Facebook : เทพเจริญไบค์
โทร : 081-695 3327

#ExcellentBikeCare #imwithshimano #RideShimano #ShimanoPoint #imwithshimanoSEA #RideShimanoSEA  #ShimanoBikeShopGuide

เปิดประตูเข้ามากวาดสายตาไปทางด้านซ้ายก็จะเห็นตู้อะไหล่สินค้าจาก Shimano พร้อมให้บริการลูกค้าไม่ว่าจะเป็น คลีทเสือหมอบ คลีทเสือภูเขา บันได โซ่ และอีกมากมาย บริเวณด้านหลังพี่แบงค์ยังมีสินค้าที่เชื่อว่านักปั่นหลายคนกำลังมองหาแน่นอน ขยับเข้าไปดูกันใกล้ๆเลย

พอลองเข้ามาดูใกล้ๆแล้วรู้เลยว่ามุมนี้น่าจะเป็นมุมมหาชนของทางร้านเพราะมีทั้งสินค้า Lifestyle อย่างรองเท้าที่มีให้เลือกทั้งรองเท้าเสือหมอบและเสือภูเขา รุ่นเริ่มต้นอย่าง RC1 / XC1 ไปจนถึงรุ่นท็อปอย่าง RC9 / XC9 นอกจากรองเท้า ยังมี ถุงมือ ถุงเท้า และสินค้าจากแบรนด์ PRO ทั้งสินค้า on-bike อย่างกระติกน้ำ ขายึดกระติก ปลอกแฮนด์ กระบอกเก็บเครื่องมือ และสินค้า off-bike พวกเครื่องมือพกพาที่จำเป็นในการออกทริปปั่น แต่! พี่แบงค์บอกว่าสินค้าจาก PRO ยังไม่หมดเท่านี้ยังมีอีกมุมที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญเดี๋ยวพี่แบงค์จะพาไปทัวร์

ก่อนจะไปทัวร์อีกมุมของ PRO พี่แบงค์อยากจะแนะนำลูกค้าที่กำลังมองหารองเท้าคู่ใหม่ ถ้าคุณไม่รู้ว่าควรเลือกรองเท้ารุ่นไหน ไม่รู้ว่าตัวเองมีหน้าเท้ายังไง ไม่ต้องกังวลไปเพราะพี่แบงค์มีตัวช่วยนั่นก็คือเครื่องวัดไซส์รองเท้า Shimano Brannock Device ที่สามารถบอกได้ว่าคุณหน้าเท้ากว้างหรือแคบ ควรใส่รองเท้าหน้าเท้าปกติหรือใส่แบบหน้าเท้า wide แถมยังบอกถึงไซส์ 0.5 หรือไซส์ครึ่งอีกด้วย ทั้งสะดวก รวดเร็วใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที คุณก็ได้รองเท้าคู่ใจคู่ใหม่กลับไปพร้อมลุยแล้ว

ซื้อรองเท้าใหม่แล้วแน่นอนว่าจะต้องมีการติดตั้งคลีท ทางร้านก็มีอุปกรณ์ติดตั้งคลีท หรือเจ้าตัว Shoe cleat adjuster ให้ได้ตำแหน่งที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนจาก bikefitting.com นอกจากการตั้งคลีทรองเท้าใหม่แล้ว พี่แบงค์ยังมีเครื่องวัดหาค่าร่างกายนักปั่น 12 จุดเพื่อวัดหาไซส์จักรยานคอยให้บริการกับลูกค้าที่สนใจจะซื้อจักรยานคันใหม่ รับรองว่าได้รถใหม่ที่ทั้งปั่นสนุก อุปกรณ์อะไหล่ต่างๆที่เข้ากับสัดส่วนร่างกายเพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บจากการปั่นได้อีกด้วย

และเราก็มาถึงอีกพ้อยท์สำคัญของ PRO ที่บอกไปก่อนหน้านี้ ในมุมนี้ก็จะเป็นพวกคอมโพเนนต์หัวใจสำคัญของจักรยานอย่าง แฮนด์ สเต็มและหลักอานตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นราคาจับต้องได้ไปจนถึงรุ่นท็อปน้ำหนักเบาสำหรับสาย Performance

เข้ามาดูกันใกล้ๆอีกครั้ง คอมโพเนนต์ PRO ของทางร้านก็มีให้เลือกทั้งแบบอลูมิเนียมเน้นความสติฟ แข็งแรง และวัสดุคาร์บอนที่มีให้เลือกใช้ทั้ง แฮนด์ สเต็มและหลักอานตามความชอบของแต่ละคน

วันที่ทีมเราไปร้านก็มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการหรือเลือกซื้ออุปกรณ์ต่างๆไม่หยุดสาย แต่ก็อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่า ‘พี่แบงค์’ และ ‘พี่กี้’ คอยช่วยกันดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึงและเป็นกันเอง พอลูกค้าเข้าพี่แบงค์ติดงานเซอร์วิสรถจักรยาน พี่กี้ก็จะเป็นคนคอยแนะนำสินค้าต่างๆ(อย่างในรูป)ให้กับลูกค้าด้วยตัวเอง ดูแลลูกค้าดีทั่วถึงแบบนี้ก็ไม่แปลกใจเลยทำไมลูกค้าเข้ามาใช้บริการตลอด

เอาล่ะ!เรามาดูมุมโปรดหรือมุมทำงานประจำของพี่แบงค์กันดีกว่า พี่แบงค์นอกจากจะเป็นเจ้าของร้านแล้วทุกงานเซอร์วิสจักรยานพี่แบงค์ก็ลงมือทำด้วยตัวเองทุกเคสไม่ว่าจะรถเสือหมอบ เสือภูเขา รถพับ ‘งานเล็กหรืองานใหญ่พี่แบงค์ก็พร้อมยินดีช่วยเหลือ พี่แบงค์ยังเล่าอีกว่าหลังจากล็อคดาวน์ที่ผ่านมามีลูกค้านำรถมาซ่อมเยอะ แต่พี่แบงค์บอกจะดูแลเป็นเคสๆ เคสไหนที่มีอาการหนักหรือต้องซ่อมกันชุดใหญ่แนะนำให้โทรมาปรึกษาและนัดคิวล่วงหน้าก่อนเพื่อเว้นระยะห่างในช่วงสถานการณ์โควิด-19

สำหรับใครที่เป็นแฟนหมวก LAZER ทางร้านก็มีหมวกสีใหม่ล่าสุดอย่าง Blue Haze Limited Color พร้อมจำหน่ายแล้วทั้งรุ่น GENESIS และ SPHERE นอกจากสีลิมิเต็ดก็ยังมีหมวกรุ่นอื่นๆให้ได้เลือกกันอีกนะไม่ว่าจะหมวกเสือหมอบ เสือภูเขาหรือหมวกใช้ปั่นในเมืองทั่วไปอย่างรุ่น Tonic และ Compact หมวกอเนกประสงค์ ราคาเป็นมิตรแถมยังมั่นใจในความปลอดภัยด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลอย่าง CE / AS / CPSC

อีกไอเท็มจำเป็นในการปั่นคงหนีไม่พ้นแว่นตาเพราะนอกจากจะใส่เป็นแฟชั่นได้แล้ว ยังช่วยป้องกันแสงแดดให้บรรดานักปั่นมีทัศนยภาพที่ชัดขึ้น สำหรับแว่นของทางร้านพี่แบงค์และพี่กี้ก็ได้คัดสรรแว่นจาก Shimano ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นอย่าง Aerolite ไปจนถึงตัวท็อปอย่าง S-PHYRE

เอาล่ะเดินมาถึงตู้โชว์ชุดขับเคลื่อนกันแล้ว ใครที่แวะเวียนไปที่ร้านก็สามารถไปชมชุดขับกันได้ มีทั้งเสือหมอบ เสือภูเขาและชุดขับเคลื่อนระบบไฟฟ้า Di2 แต่ถ้าชมแล้วสนใจอยากจัดสักชุดสามารถสอบถามหรือปรึกษากับพี่แบงค์และพี่กี้ได้เลย

นอกจากสินค้าของ Shimano และแบรนด์ในเครือแล้วทางร้านยังมีสินค้าดีๆ เต็มไปด้วยประสิทธิภาพอย่าง CATEYE มีทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเซฟตี้ต่างๆช่วยให้การปั่นตอนกลางคืนปลอดภัยมากขึ้น สินค้า CATEYE ของทางร้านไม่ได้มีเพียงแค่ไฟเท่านั้นแต่ยังมีไมล์จักรยานและกระดิ่งรุ่นฮอตฮิตตลอดกาลให้นักปั่นได้เลือกช็อป

ก่อนจะไปดูภาพบรรยากาศในร้านเพิ่มเติมขอพาแวะมาชมยาง Schwalbe ของทางร้านกันสักหน่อยเพราะวันที่เราเข้าไปร้านมีลูกค้าเข้ามาปะยางและเปลี่ยนยางกันเยอะ แต่สิ่งที่ประทับใจคือการพูดคุยแนะนำของพี่แบงค์กับลูกค้าถึงคุณสมบัติของยางที่แตกต่างกันด้วยความจริงใจและเราก็เชื่อว่าพี่แบงค์คงอยากให้ลูกค้าได้สิ่งที่ดีที่สุดกลับไป

เพื่อเพิ่มความมั่นใจเราก็แอบเก็บภาพพี่แบงค์ตอนให้คำแนะนำลูกค้าที่สนใจรถจักรยานเสือหมอบ GIANT อย่างตรงไปตรงมาและเป็นกันเอง

เดินทัวร์กันหมดทุกซอกทุกมุมของทางร้านแล้ว ก็พูดได้เต็มปากเลยว่าเป็นร้านที่มีสินค้าครบเครื่อง เซอร์วิสจัดเต็มจริงๆ สำหรับจักรยานที่ทางร้านมีจำหน่ายก็มีครอบคลุมเช่นกันทั้งเสือหมอบ เสือภูเขา ไฮบริด ซิตี้ไบค์ จักรยานพับและจักรยานเด็ก โดยแบรนด์หลักๆที่ทางร้านมีขายก็จะเป็น GIANT และ JAVA ใครที่กำลังมองหาจักรยานคันใหม่และชื่นชอบ 2 แบรนด์นี้หรือแบรนด์อื่นๆก็สามารถเข้าไปชม ไปช็อปกันได้เลย

#ExcellentBikeCare #imwithshimano #RideShimano #ShimanoPoint

SHIMANO BIKE SHOP GUIDE : เทพเจริญไบค์2021-09-23T13:39:12+07:00

เสื้อปั่น SHIMANO Jersey

“เสื้อปั่น” อีกหนึ่งไอเท็มที่นักปั่นทุกคนควรมี นอกจากช่วยเพิ่มความความแอโร่แล้ว ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยระบายอากาศ ซึ่งถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับกีฬากลางแจ้งอย่างการปั่นจักรยาน เสื้อปั่นจาก SHIMANO ทุกตัวมีเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาอุณหภูมิของร่างกายไว้อยู่ที่ 37 องศา เป็นอุณหภูมิที่ได้รับการวิจัยมาว่าเหมาะสมกับการปั่นจักรยานที่สุด นอกจากนี้ยังอัดแน่นไว้ด้วยเทคโนโลยีที่จะทำให้คุณรู้สึกเย็นสบาย ด้วยเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม ช่วยทำให้เหงื่อแห้งเร็ว จึงไม่ร้อนไม่เหนียวเหนอะหนะ และที่สำคัญทุกรุ่นยังป้องกันแสง UV ได้อีกด้วย ไม่ว่าคุณจะมีสไตล์การปั่นแบบไหน หรือมีงบเท่าไหร่ SHIMANO ก็มีเสื้อปั่นหลากเรนจ์ หลายราคามาให้คุณเลือกได้ตามต้องการ ซึ่งเรารวบรวมมาไว้ให้คุณแล้ววันนี้

 

สนใจซื้อเสื้อปั่น ติดต่อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
https://hahhong.com/dealer/

#imwithshimano #RideShimano #SPHYRESEA #allfortheride

S-PHYRE FLASH Jersey

เสื้อปั่นซีรี่ย์ท็อปในทรง Race-fit ที่ให้ความแอโร่สูงสุด ภายใต้ความสบายในการสวมใส่ ระบายอากาศได้อย่างยอดเยี่ยมและมีน้ำหนักเบามาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใส่ปั่นท่ามกลางอากาศร้อน ด้านหน้าเป็น 3D Surface ที่ออกแบบมาให้ช่วยลดแรงต้านลมได้มากที่สุด ใช้เนื้อผ้าทอละเอียดที่มีความยืดหยุ่นสูง ลดรอยยับช่วงไหล่ ทำให้ไม่เกิดการกระพือต้านลมของผ้าเมื่อปั่นด้วยความเร็วสูง

ขนาด : XS – XXL

สี : น้ำเงิน, แดง

ราคา : 7,900 บาท

S-PHYRE LEGGERA Jersey

อีกหนึ่งเสื้อปั่นซีรี่ย์ท็อปที่มาในทรง Race-fit ใช้เนื้อผ้า Professional Grade ที่มีน้ำหนักเบามากและระบายอากาศได้ดีเยี่ยม ออกแบบให้สามารถสวมใส่ได้ฟิตพอดีกับสรีระ แพทเทิร์นช่วงไหล่ซัพพอร์ตบริเวณแขนเสื้อและหลังด้านบน ช่วยลดรอยยับจึงเพิ่มความแอโร่และให้ลุคที่ดูโดดเด่น ปลายแขนเสื้อยาวขึ้นช่วยโอบกระชับและซัพพอร์ตกล้ามเนื้อ

ขนาด : XS – XXL

สี : สีดำ/น้ำเงิน, น้ำเงินเข้ม, เทาเมทัลลิค, แดง

ราคา : 6,300 บาท

SHIMANO YURI Jersey

เสื้อปั่น High Performance ทรง Race-fit ที่ดีไซน์มาสำหรับสรีระของผู้หญิงโดยเฉพาะ มีการเย็บเก็บทรงช่วงเอว แต่ยังคงความสวมใส่สบายไม่อึดอัด ใช้ผ้าที่มีน้ำหนักเบาและให้สัมผัสนุ่มนวล แขนเสื้อยาวขึ้นช่วยให้ใส่สบายและซัพพอร์ตกล้ามเนื้อ

ขนาด : XS – XL

สี : ชมพู, น้ำเงินเข้ม, ดำ

ราคา : 4,600 บาท

SHIMANO EVOLVE Jersey

เสื้อปั่น High Performance ที่สวมใส่สบายด้วยการผลิตแบบ Laser cut ใช้เนื้อผ้า Premium super soft ที่ตัดแสง UV ได้ถึง 50% ตัวเสื้อแนบพอดีกับสรีระจึงให้ความแอโร่สุดๆ มีน้ำหนักเบา เย็นสบายระบายอากาศดีเยี่ยม

ขนาด : XS – XXL

สี : ฟ้า, น้ำเงินเข้ม, ชาร์โคล

ราคา : 4,800 บาท

SHIMANO BREAKAWAY Jersey

เสื้อปั่นดีไซน์ Race cut ทรงรัดรูปแบบ Performance fit ที่มีน้ำหนักเบา แห้งไวและระบายอากาศได้ดีที่สุด จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะใส่ในวันที่อากาศร้อน กระเป๋าด้านหลังมีซิปจึงยิ่งเก็บของได้สะดวก

ขนาด : XS – XXL

สี : แดง

ราคา : 3,600 บาท

SHIMANO AEROLITE Jersey

เสื้อปั่นดีไซน์สวยที่ผลิตจากผ้าตาข่ายจึงระบายอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม มาพร้อมแขนเสื้อที่ยาวขึ้นเล็กน้อย เพิ่มความแอโร่ขึ้นไปอีกระดับ

ขนาด : XS – XXL

สี : ฟ้า, น้ำเงินเข้ม, ชาร์โคล

ราคา : 2,900 บาท

SHIMANO TEAM Jersey

เสื้อปั่นลุค Training Sport เนื้อผ้า Polyester 100% นุ่มและใส่สบายไม่อึดอัด เหมาะสำหรับการใส่ปั่นในทุกๆวัน

ขนาด : XS – XXL (3XL เฉพาะสีดำ)

สี : แดง, น้ำเงินเข้ม, ดำ

ราคา : 2,500 บาท

เสื้อปั่น SHIMANO Jersey2021-09-17T09:30:10+07:00

เปิดตัวชุดขับใหม่ SHIMANO ULTEGRA R8100

ULTEGRA R8100 12 SPEED เปิดตัวใหม่อย่างเป็นทางการโดยชุดขับได้รับ DNA เทคโนโลยีมาจาก DURA-ACE R9200 12-SPEED โดยผสมผสานความเหนือชั้นที่วิศวกรของ Shimano ได้ศึกษาหลักการ “Science of Speed” ในทุกชิ้นส่วนเพื่อมอบสมรรถนะที่เหนือชั้นกว่าที่เคยเป็นมา

ไปดูรายละเอียดของ ALL NEW ULTEGRA กันเลยว่ามีจุดเด่นอะไรบ้าง

“LEAVE TIME BEHIND”

#Rideshimano #Imwithshimano #NextGenUltegra #UltegraR8100 #Ultegra12Speed Shimano-Road

SHIFT INTO ONENESS WITH 12-SPEED WIRELESS

ชุดขับเคลื่อน Ultegra R8100 Series (Disc Brakes) นั้นได้พัฒนาเป็น 12-Speed ที่ให้อัตราทดที่ยอดเยี่ยมพร้อมส่งสัญญาณการเปลี่ยนเกียร์ผ่านระบบ Wireless การเปลี่ยนเกียร์ของระบบ Wireless นั้นจะทำงานจากมือเกียร์ส่งสัญญาณไปยังตัวรับสัญญาณที่ตีนผีและการทำงานของสับจานหน้า คือเมื่อมือเกียร์ส่งสัญญาณไปยังตัวรับที่ตีนผี แล้วตีนผีจึงส่งสัญญาณผ่านสายไฟภายในที่เชื่อมกับแบตเตอรี่ไปยังสับจานหน้าอีกครั้งหนึ่ง ระบบ Wireless Shifting ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ที่เร็วขึ้นกว่าเดิม รวมถึงระบบที่มีความราบรื่นสูงสุด

NEW DI2 PLATFORM

สำหรับ Platform Di2 ของ Ultegra ใหม่นั้นจะใช้รูปแบบเดียวกับ Platform ของ Dura-Ace ทุกประการพัฒนาการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว และความน่าเชื่อถือสูงสุดของระบบวงจร การทำงานของระบบ Di2 ของ Ultegra ใหม่นั้นได้พัฒนามอเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่ในระบบตีนผี ลดเวลาในการทำงานในเรื่องของความเร็วที่ทำให้มันเป็นชุดขับเคลื่อนที่เร็วที่สุดที่เคยมีมา การทำงานตีนผี Ultegra ใหม่นั้นมีความเร็วมากกว่าตีนผี Dura-Ace R9150 ถึง 58% และในส่วนของสับจานหน้าที่ขนาดเล็กลงทำให้น้ำหนักลดลงและความเร็วที่เพิ่มขึ้น 45% จากสับจานหน้า Dura-Ace R9150 ทำให้มันเป็นระบบใหม่ที่มีความเร็วที่สุดและยังมีความน่าเชื่อถือมากที่สุดอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นตีนผีใหม่ของ Ultegra นั้นจะใช้แบบเดียวกับ Dura-Ace คือ integrated design รวบรวมทั้ง Junction A , Defly wireless Unit และตัว Charging port และมีไฟ LED indicator แจ้งเตือนแบตเตอรี่รวมในตีนผีตัวเดียว ซึ่งมันเป็นรูปแบบที่ทำให้การติดตั้งอุปกรณ์ลดลงไปเยอะ ให้ความสะดวกสบายในการใช้งานขึ้นมาก

ULTEGRA CONTROL INTERFACE

ส่วนชิพเตอร์ได้ปรับเปลี่ยนใหม่ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น  ในเรื่องของหน้าตาและการเชื่อมโยงกับผู้ปั่น ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่สมบูรณ์แบบไม่มีที่ติไม่ว่าคุณจะกำลังไต่เขา จะ Sprint หรือ Time Trial ให้มีความสมดุลและความสบายที่สุด รวมไปถึง รูปลักษณ์ใหม่ที่สะอาดตา และการปรับตั้ง Customize ได้หลากหลาย และความแอโรไดนามิคที่ดีที่สุด

การเปลี่ยนแปลงในส่วนของชิพเตอร์ Ultegra ใหม่แบบ wireless hydraulic disc brake shifters ที่ได้ปรับให้ Hood นั้นยกสูงขึ้นเล็กน้อยและมุมองศาของตัว Hood ที่โค้งเข้ามาหาลำตัวของผู้ปั่นเล็กน้อยและได้ปรับพื้นที่การจับที่เยอะขึ้น ให้ความสบายมากขึ้นในการจับได้เต็มมือ การคอนโทรลรถที่ยอดเยี่ยม และตำแหน่งปุ่มเปลี่ยนเกียร์ที่ยาวขึ้น ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ที่ง่ายขึ้นเมื่อเวลาจับ Drop และยาง Hood ใหม่ที่เพิ่มความ Grip มากขึ้น

ชิพเตอร์ Ultegra wireless นั้นทำงานร่วมกับแบตเตอรี่แบบกลม (CR1632) ที่มีอายุการใช้งานที่นานถึง 1.5-2 ปี ต่อแบตเตอรี่ 1 ก้อน และเปลี่ยนได้ง่าย การปรับระยะ Reach ของมือนั้นปรับได้มากขึ้นโดยสามารถปรับระดับได้ถึง 16.4mm และชิพเตอร์ใหม่นั้นยังสามารถทำงานร่วมกับ Remote shifter อื่นๆเช่น sprint shifter (SW-R801-S) หรือ climbing shifter (SW-R801-T) ที่เชื่อมต่อสายเคเบิลเข้ากับชิพเตอร์โดยตรงโดยไม่มี Junction เหมือนรุ่นที่แล้ว ส่วนระบบการปรับตั้งค่าการทำงานของชุดเกียร์ผ่าน E-TUBE Project นั้นทำได้หลากหลายเช่นเดิมที่ให้ผู้ปั่นสามารถปรับตั้งค่าการทำงานของเกียร์ตามความถนัดและความต้องการ

น้ำหนักมือเกียร์ ULTEGRA ST-R8170 shifters (391 g).

MOST ADVANCED DRIVETRAIN

ชุดขับเคลื่อน Ultegra R8100 12-Speed ใหม่เป็นชุดขับเคลื่อน High-End Generation ใหม่ที่มีความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดที่เป็นที่สุดในเรื่องของความเร็ว ความสมูท และการส่งกำลัง โดยชุดขับเคลื่อนนั้นได้ใช้ระบบเกียร์แบบ Hyperglide+ ที่อยู่ในรูปแบบเดียวกับชุดขับเคลื่อน Shimano MTB 12 Speed ที่จะทำให้การทำงานของระบบเกียร์ทั้ง โซ่ ใบจานหน้า เฟืองหลัง ที่นักปั่นจะไม่ต้องผ่อนแรงในขณะเปลี่ยนเกียร์ หรือรอจังหวะในการเปลี่ยนเกียร์ ภายใต้ทุกการส่งกำลัง ทุกการส่งแรงออกไปที่ลูกบันได สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างราบรื่นสูงสุด และ Shimano เองนั้นได้ปรับตำแหน่งเกียร์ของเฟือง 11-30 ให้มีความราบรื่นขึ้นที่เฟืองที่ 6-8 เพื่อให้ความสม่ำเสมอในการเปลี่ยนเกียร์อย่างสูงสุด

การใช้ร่วมกับชุดล้อ ข่าวดีสำหรับชุดขับเคลื่อน Shimano Road 12 Speed ใหม่อย่าง Dura-Ace R9200 และ Ultegra R8100 นั้นสามารถใช้ร่วมกับชุดล้อโม่ 11s ที่มีอยู่ในปัจจุบันได้เลย โดยไม่ต้องเปลี่ยนโม่ล้อแต่อย่างใด

ENHANCED BRAKE SYSTEM

ระบบ Ultegra Disc Brake ใหม่นั้นจะให้การควบคุมที่ดีที่สุดที่เคยมีมา ความละเอียดในการเบรก การเข้าโค้งที่แน่นและเร็วขึ้น ระบบเบรกของ Ultegra นั้นใช้ Platform เช่นเดียวกับเบรก Dura-Ace ระบบเบรกเน้นใน 3 เรื่องคือ การควบคุมรถที่ดีขึ้น เสียงที่เงียบ รวมถึงการ service ที่ง่ายขึ้น สำหรับเทคโนโลยีของชุดเบรกใหม่เพิ่มเทคโนโลยี SERVO WAVE เข้าไปที่มือเกียร์ที่จะมีระยะ Freestoke นั้นน้อยลงเมื่อเทียบกับมือดิสก์เบรกของรุ่นที่แล้ว เมื่อกดเบรกชิพเตอร์เพียงนิดเดียว คาริเปอร์จะทำงานได้อย่างรวดเร็ว มั่นใจในระยะเบรกที่สั้นลงและการควบคุมเบรกที่นุ่มนวล

นอกจากนี้ การลดเสียงรบกวนจากเบรกยังได้รับการปรับปรุงด้วยผ้าเบรกที่กว้างขึ้น 10% จากระยะห่างของใบดิสก์ และชุดเบรก Ultegra นั้นจะใช้ใบดิสก์ RT-MT800 ที่เป็นซีรี่ส์ของชุดขับเคลื่อน XT M8100 เพื่อลดความร้อนและลดเสียงลงได้อีก

ส่วนสุดท้ายคือการ service เบรก ในการเติมน้ำมันเบรกยังทำได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องถอดคาริเปอร์ออกมาจากเฟรมด้วยพอร์ตไล่ลมเบรกและสกรูวาล์วแยกต่างหาก น้ำหนักมือเกียร์ ULTEGRA BR-R8170 caliper (282g/คู่).

ULTEGRA POWER METER

เป็นครั้งแรกสำหรับชุดขับเคลื่อน Ultegra ที่มีระบบ Power Meter ออกมาเป็นตัวเลือกอีกตัวหนึ่งที่นอกเหนือจาก Dura-Ace สำหรับ Power Meter ของ Ultegra ใหม่นั้นใช้รหัส FC-R8100-P ที่ใช้ Unit เดียวกับ Dura-Ace Power Meter เลย เรียกง่ายๆว่าการใช้งานเหมือนกันทุกประการ ต่างกันแค่เพียงซีรี่ส์ ดีไซน์หน้าตา เพียงเท่านั้น ให้การวัดค่า Power ทั้งซ้าย-ขวา ผ่าน Bluetooth และ ANT+ เพื่อส่งข้อมูล และมีค่าความแม่นยำของข้อมูลอยู่ที่ +-1.5% เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับคนที่อาจจะใช้ชุดขับเคลื่อน Ultegra ก็จะเข้ากับชุดขับเคลื่อน หรือแม้กระทั่งชุดขับเคลื่อนอื่นๆก็ตาม ที่มีราคาที่ย่อมเยากว่า Dura-Ace

สำหรับชุดจาน Power Meter ของ Ultegra นั้นมีน้ำหนักเพียง 769g ต่างกับ Dura-Ace เพียง 21g เท่านั้นและมีให้เลือกขนาดเช่นเดียวกับจานธรรมดาคือ 50-34T และ 52-36T

ULTEGRA FULL CARBON WHEELSET

สำหรับชุดล้อ Full Carbon ในซีรี่ส์ Ultegra ที่เป็นครั้งแรกที่ Shimano ได้ทำ line-up นี้ขึ้นมาซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่ามากๆ สำหรับชุดล้อ Full Carbon ในรูปแบบล้อ Disc Brakes ขอบ Tubeless ที่กำลังเป็นที่นิยมของนักปั่น ให้เข้าถึงล้อ Full-Carbon High Performance ได้ง่ายขึ้น ชุดล้อ Ultegra Full Carbon จะใช้โปรไฟล์ขอบล้อความสูงเช่นเดียวกับ Dura-Ace และมุ่งเน้นใน 3 เรื่องคือความแอโรไดนามิค ความแข็งแรงของล้อ น้ำหนักที่เบา โดยจะมีทั้งหมด 3 ซีรี่ส์ คือ C36 C50 C60 ขึ้นอยู่กับสไตล์การปั่นของแต่ละคน

C36 – ขอบสูง 36mm มุ่งเน้นไปที่การปีนเขาและเป็นล้อที่เบาที่สุด โดยมีน้ำหนักเป้าหมายที่ 1,488 กรัมต่อคู่ ( น้ำหนัก DURA-ACE WH-R9270-C36-TL: 1,350 กรัม)

C50 – ขอบสูง 50mm เป็นล้อ All-Round ที่มีความสมดุลที่ยอดเยี่ยม ให้ความแอโรไดนามิคที่ดีทั้งด้านหน้าด้านข้าง และความแข็งแกร่งในการขับขี่  ULTEGRA C50 มีน้ำหนัก 1,570 กรัมต่อคู่ (DURA-ACE WH-R9270-C50-TL น้ำหนัก: 1,461 กรัม)

C60 – ขอบสูง 60mm คือล้อที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์มากที่สุดสำหรับความเร็วสูง ความแข็งแกร่งด้านข้างสูง และความแข็งแกร่งในการขับขี่ที่เหนือชั้น ULTEGRA C60 มีน้ำหนัก 1,649 กรัมต่อคู่ (DURA-ACE WH-R9270-C60-TL น้ำหนัก: 1,609 กรัม)

ULTEGRA R8100 12-SPEED RIM BRAKES

นอกจากนี้ Ultegra 12 Speed ใหม่ยังมีตัวเลือกในรูปแบบ Rim-Brakes ด้วยที่ยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักปั่นอยู่สำหรับชุดขับเคลื่อนแบบ Rim Brakes นั้นจะมีระบบเกียร์เดียวกับที่เป็นรุ่น Disc Brakes เลย ทั้งความเร็วในการเปลี่ยนเกียร์ ความนุ่มนวลที่มากขึ้น แต่จะต่างกันที่ชุดขับเคลื่อนแบบ Rim-Brakes จะไม่ได้เป็นระบบ Wireless จะเป็นระบบที่ใช้สายไฟที่ให้ความเสถียรสูงสุดและการประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าแบบ Wireless

ULTEGRA R8100 SERIES 12-SPEED ชุดขับเคลื่อน High-Performance ที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วที่สุด ระบบไฟฟ้าที่เสถียร ที่คุณจะต้องหลงรัก Ultegra แน่นอนเมื่อได้ครอบครอง

“ปล่อยเวลาทิ้งไปข้างหลัง แล้วเข้าสู่ความสงบที่คุณจะก้าวไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกัน”

เปิดตัวชุดขับใหม่ SHIMANO ULTEGRA R81002021-09-03T16:13:26+07:00

เปิดตัวชุดขับใหม่ SHIMANO Dura-Ace R9200

ชุดขับ DURA-ACE เจเนอเรชั่นใหม่ สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อนักปั่นที่มองหาชุดขับที่สมบูรณ์เเบบที่สุด หากคุณยังต้องการไปให้เร็วยิ่งกว่าและสูงยิ่งกว่า DURA-ACE จะพาคุณไปให้ถึงจุดสูงสุดเอง! SHIMANO ทุ่มเททั้งฝีมือและระยะเวลาแรมปี รวบรวมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดไว้ใน DURA-ACE R9200 นี้ เพื่อส่งให้คุณไปได้เร็วขึ้นแม้สักวินาที เราสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับชุดขับเสือหมอบ โดยการวิจัยและพัฒนาภายใต้คอนเซปต์ SCIENCE OF SPEED ที่จะยกระดับชุดขับอย่างครอบคลุมทั้ง 5 ด้าน

เริ่มจากปรับปรุงแพลตฟอร์ม Di2 ใหม่เป็นแบบ Wireless ที่ทำงานได้รวดเร็วและสเถียรยิ่งขึ้น จึงไว้ใจได้มากกว่าเดิม ดีไซน์ Interface ใหม่เพิ่มความสมดุล ทั้งแอโร่และจับสบาย ปรับระบบเกียร์ใหม่เป็น 12 SPEED ให้ประสิทธิภาพสูงสุด สมบูรณ์ขึ้นทุกรายละเอียด รวมถึงปรับปรุงระบบเบรกใหม่ให้คอนโทรลได้ละเอียดขึ้น เงียบขึ้น จนเรากล้าพูดว่าดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และระบบล้อใหม่ ที่มีทั้งความแข็งแกร่ง มีแอโร่ไดนามิคที่ดี และน้ำหนักเบา เรียกว่ายกเครื่องมาใหม่ทั้งชุด แรงสุดสมการรอคอย แต่จะดีขึ้นแค่ไหน ดีขึ้นอย่างไร เราไปเจาะลึกในแต่ละหัวข้อกันเลยดีกว่า

#imwithshimano #imwithshimanoSEA #RideShimano #RideShimanoSEA #allfortheride #allfortherideSEA Shimano-Road

Platform Di2 ใหม่

          DURA-ACE R9200 จะเป็นชุดขับพร้อมชุดเกียร์ Di2 เท่านั้น ไม่มีชุดเกียร์แบบเมคานิคส์แล้ว โดยมีชิฟเตอร์แบบ Wireless (เฉพาะ Disc Brake) คอยส่งสัญญาณสั่งการไปยังตีนผี ซึ่งระบบ Wireless ของ Di2 ใหม่นี้มีทั้งความปลอดภัยสูง กินพลังงานต่ำ และมีสัญญาณรบกวนน้อย แต่เรายังเพิ่มประสิทธิภาพของ Di2 ขึ้นไปอีก ด้วยการเชื่อมต่อตีนผีกับแบตเตอรี่และสับจานหน้าด้วยสายไฟ เพราะจะทำให้การสั่งการผ่านแต่ละชิ้นส่วนมีความสเถียรมากขึ้น และมีประสิทธิภาพสูงกว่า ให้ความมั่นใจที่มากกว่าเดิม โดยผลลัพธ์คือตีนผีสามารถตอบสนองได้ไวขึ้นถึง 58% และสับจานหน้าก็ทำงานได้ไวขึ้นอีก 45% เมื่อเทียบกับ DURA-ACE R9150 รุ่นก่อน จนกลายเป็นชุดเกียร์ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วที่สุด

          ในขณะเดียวกันก็ลดความยุ่งยากในการติดตั้งและใช้งานลง โดยรวมอุปกรณ์ต่างๆไว้ในตีนผีที่เดียว ทั้ง Junction A, ที่ชาร์จแบตเตอรี่, ตัวส่งสัญญาณ Bluetooth และ ANT+ หรือ D-FLY รวมถึงปรับเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่แค่ก้อนเดียว เวลาเซอร์วิสจึงทำได้ง่าย ซึ่งแบตเตอรี่ใหม่นี้จะทำหน้าที่จ่ายไฟให้ตีนผีและสับจานหน้า สำหรับการชาร์จแบต 1 ครั้งสามารถปั่นได้ถึง 1,000KM จากการทดสอบปั่นระยะทาง 45KM ต่อวัน ที่อุณหภูมิ 25 องศา ส่วนตัวชิฟเตอร์จะใช้แบตกลม ที่มีอายุการใช้งานนาน 1.5 – 2 ปี

          นอกจากนี้ยังเลือกใช้งานเกียร์โดยเชื่อมต่อผ่านสายเคเบิ้ลได้เช่นกัน เหมาะสำหรับติดตั้งให้จักรยาน E-Bike หรือใช้ในทีมปั่นที่มีจักรยานหลายคัน ช่วยลดปัญหาเรื่องสัญญาณรบกวนได้ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักปั่นที่ต้องการความไว้วางใจระดับสูงสุดในการใช้งาน และการเชื่อมต่อแบบสายยังใช้พลังงานน้อยกว่าระบบ Wireless ถึง 50% รวมถึงหากปั่นไปแล้วเกิดอุบัติเหตุจนสายเคเบิ้ลเสียหายหรือขัดข้อง ระบบก็จะสลับไปใช้การสั่งงานแบบ Wireless โดยอัตโนมัติ จึงสามารถใช้งานชุดขับได้อย่างมั่นใจมากกว่าเดิม

Interface ใหม่

          เคียงคู่มากับ Performance นักปั่นมักมองหา Comfort หรือความสบาย เราจึงปรับดีไซน์ฮู้ดตามหลักสรีระศาสตร์ บาลานซ์ทั้งความสบายและความแอโร่ จนออกมาเป็น Unparalleled Ergonomics ที่ฮู้ดมีดีไซน์โค้งเข้ารับกับข้อมือ ให้องศาการวางตัวของข้อมือที่สบายยิ่งขึ้น รวมถึงมีส่วนฮู้ดที่สูงกว่าเดิม ซึ่งนอกจากจะจับสบายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้คอนโทรลรถได้ง่าย ระยะ Reach เองก็ถูกปรับเพิ่มขึ้น จึงทำให้วางมือได้กระชับ กำได้เต็ม 3 นิ้ว ส่วนของปุ่มก็ยาวขึ้น เพื่อให้สามารถกดเปลี่ยนเกียร์ขณะจับดรอปได้ง่าย แล้วยังเพิ่ม Offset ของปุ่มเกียร์ให้ต่างกันมากขึ้นด้วย เวลาสัมผัสจึงแยกปุ่มได้ง่าย แม้จะใส่ถุงมือหรือสัมผัสด้วยมือเปียกก็ตาม

          นอกจากนี้ลุคใหม่ของ DURA-ACE R9200 ยังมีความแตกต่างที่เห็นได้ชัด ก็คือ Cockpit ดูสะอาดตาขึ้น เพราะ Di2 ระบบ wireless ทำให้พอร์ตสายเกียร์ต่างๆถูกตัดออกไป รวมถึงอุปกรณ์ยิบย่อยอย่าง Junction A ก็ถูกเก็บรวมไปไว้ในตีนผีแทน บริเวณ Cockpit จึงดูเรียบร้อยขึ้นถนัดตา แต่ยังคงไว้ด้วยลูกเล่นหลากหลายให้คุณสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการใช้งาน ทั้งสวิตช์เสริมสำหรับสปริ้นท์หรือไต่เขา รวมถึงการปรับแต่งรายละเอียดการเปลี่ยนเกียร์และการตั้งค่าปุ่มกด ก็ยังคงทำได้ผ่าน E-TUBE Project เช่นกัน

ระบบเกียร์ใหม่ 12 SPEED

          DURA-ACE R9200 ปรับระบบเกียร์ใหม่เป็นแบบ 12 SPEED ที่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ในรอบขาที่ลื่นไหลกว่าเดิม รวมถึงมีตัวเลือกทั้งเฟืองและจานหน้ากว้างขึ้น จึงได้อัตราทดเกียร์ที่ต่ำลงตามเทรนด์ของนักปั่นในปัจจุบัน โดยเฟืองหลังมีขนาดใหม่ 11-34T และสเป็คจานหน้าใหม่ 54-40T 

          สำหรับเฟืองหลังเรายังคงเลือกใช้เฟืองใบเล็กสุดเป็น 11T เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูง แต่มีการปรับแต่งเกียร์ช่วง Sweet Spot หรือช่วงเกียร์เรนจ์กลางๆที่ถูกใช้งานมาก ให้เกียร์มีความละเอียดมากขึ้น เมื่อเปลี่ยนเกียร์จึงรู้สึกสมูทลื่นไหล รอบขาไม่กระตุก ไม่มีอาการขาวืด แล้วยังนำระบบ Hyperglide+ ที่เคยอยู่ในชุดขับ MTB 12 SPEED เข้ามาใช้อีกด้วย นอกจากเกียร์ที่เปลี่ยนได้อย่างไหลลื่นแล้ว จึงมีทั้งความนุ่มนวล แม่นยำ และตอบสนองได้รวดเร็วไม่ว่าจะเปลี่ยนเกียร์ขึ้นหรือลง โดยเฟืองใหม่ 12 SPEED นี้ออกแบบโปรไฟล์ส่วนโม่มาให้สามารถใช้งานร่วมกับชุดล้อ 11 SPEED เดิมได้ทันที

           ในส่วนของจานหน้ามีให้เลือกทั้งแบบขาจานปกติ ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี Hollowtech II คือเป็นขาจานกลวงที่มีน้ำหนักเบาและสติฟสูง กับขาจาน Power Meter แบบใหม่ที่มีความแม่นยำมากขึ้นในอัตรา ±1.5% จากเดิมรุ่นก่อนจะอยู่ที่ ±2% รวมถึงมีระบบชดเชยอุณหภูมิอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้สามารถวัดค่าได้แม่นยำมากขึ้น มาพร้อมแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟ ที่ทั้งกันน้ำและเซอร์วิสได้ง่าย ชาร์จไฟ 1 ครั้งสามารถใช้งานได้นาน 300 ชั่วโมง ตัวสับจานเองก็ถูกปรับปรุงใหม่ให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้นเช่นกัน และยังถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กลง 33% และมีน้ำหนักเบาลงเหลือเพียง 96G เท่านั้น

          ส่วนโซ่ที่จะเข้ามาเชื่อมต่ออุปกรณ์ในชุดขับเคลื่อน เลือกใช้เป็นโซ่ MTB 12 SPEED ที่ไว้วางใจได้ในประสิทธิภาพและหาซื้อได้ง่าย โดยเลือกใช้งานได้หมดทั้งรุ่น XTR, XT, SLX รวมไปถึง DEORE

ปรับปรุงระบบเบรก

          การมีระบบเบรกที่ดีอาจทำให้พลิกผลการแข่งขันจนส่งนักปั่นขึ้นไปยืนบนโพเดียมได้เลย และเราก็มั่นใจว่านี่คือระบบเบรกที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา ระบบเบรกใหม่ใน DURA-ACE R9200 ยังคงใช้เทคโนโลยี SERVO WAVE Action ที่คาลิเปอร์สามารถทำการจับใบดิสก์ได้อย่างรวดเร็วและนุ่มนวล แต่พัฒนาให้ตอบสนองได้ไวยิ่งขึ้น โดยมีระยะ Free Stroke ที่สั้นลงกว่ารุ่นก่อน แตะเบรกเพียงนิดเดียวก็ทำให้เบรกทำงานได้แล้ว และระยะ Free Stroke ที่สั้นลงยังทำให้มีพื้นที่ในการควบคุมเบรกมากขึ้นอีกด้วย จึงสามารถไล่ระดับการกดเบรกได้ละเอียดกว่า คอนโทรลรถได้แม่นยำขึ้น ทำให้ควบคุมรถได้ละเอียด เข้าโค้งแน่น รวดเร็ว ดุดัน และมั่นใจ

          นอกจากนี้ยังมีการปรับระยะระหว่างผ้าเบรกให้กว้างขึ้น 10% ช่วยลดการเสียดสีของผ้าเบรกกับใบดิสก์ จึงช่วยลดเสียงกระทบลงได้ รวมถึงช่วยลดอุณหภูมิที่เกิดจากการเสียดสีลงด้วย โดยใช้งานคู่กับใบดิสก์ MTB รุ่น RT-MT900 สามารถลดอุณหภูมิลงได้ถึง 66% ซึ่งคาลิเปอร์ตัวใหม่นี้จะเป็นแบบ Mono Body คือเป็นชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ที่ช่วยเพิ่มทั้งความแข็งแรงและประสิทธิภาพในการเบรก รวมถึงยังปรับดีไซน์ช่วยให้การเซอร์วิสง่ายขึ้น โดยสามารถเติมและไล่น้ำมันเบรกได้โดยไม่ต้องถอดออกจากตัวรถ

ระบบล้อใหม่

         เราได้ออกแบบชุดล้อใหม่ทั้งหมด เพื่อยกระดับมาตรฐานให้กับล้อ Road Racing โดยโฟกัสที่ 3 ด้านคือ ความแอโร่ ความแข็งแรง และน้ำหนักเบา ล้อ DURA-ACE ใหม่มาในดีไซน์เรียบง่าย สามารถเข้าได้กับรถทุกแบรนด์ มีทั้งล้อสำหรับยาง Tubeless และยางฮาร์ฟหรือ Tubular รวมทั้งหมด 3 ซีรี่ย์ คือ C36 C50 และ C60

         โดยแต่ละซีรี่ย์ก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เริ่มจาก C36 เป็นล้อที่เน้นเรื่องน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับนักปั่นที่ชอบขึ้นเขา ส่วน C50 จะเป็นล้อ All-Round ที่ให้อัตราเร่งดี ยืนความเร็วได้ดี และคุณสมบัติสมดุลกันหมดทั้งความแอโร่ ความแข็งแรง และน้ำหนัก สุดท้าย C60 เป็นล้อที่เน้นความแอโร่และความแข็งแรงสูงสุด สติฟมากที่สุด รองรับการใช้งานปั่นหนักๆในย่านความเร็วสูง และตอบสนองต่อการสปริ้นท์ได้อย่างยอดเยี่ยม

         อย่างแรกที่เราใส่ใจพัฒนาคือเรื่องแรงต้านลมที่เป็นปัจจัยสำคัญในการปั่น โดยออกแบบโปรไฟล์ขอบล้อใหม่ ทำให้ล้อ C50 สามารถลด Drag และช่วยเซฟวัตต์ลงไปได้ 5.1W เมื่อเทียบกับล้อ C40 รุ่นเก่า ส่วนแรงต้านลมด้านข้างเองก็ทำได้ต่ำใกล้เคียงกันทั้งที่มีขอบสูงกว่า จึงยังได้รับประโยชน์จากแรงลมด้านข้างอยู่ และไม่เสียความสามารถในการควบคุมรถไป อีกส่วนที่ถูกยกเครื่องใหม่คือ Free Hub มาในดีไซน์ใหม่ชื่อ DIRECT ENGAGEMENT ที่โครงสร้างมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ส่งกำลังได้อย่างรวดเร็ว ลดจังหวะวืดของรอบขา โดยให้สัมผัสในการปั่นที่แข็งแรงขึ้นถึง 63% เมื่อเทียบกับล้อ C40 รุ่นเก่า และเรายังเข้าใจว่าน้ำหนักทุกกรัมมีค่า จึงใส่ใจในการรีดน้ำหนักออกจากทุกชิ้นส่วน เริ่มจาก Free Hub ใหม่ที่เบาลง 45G ปรับปรุงซี่ลวดและขอบล้อ ผลลัพธ์คือล้อ C50 1 คู่ มีน้ำหนักโดยรวมน้อยกว่าล้อ C40 รุ่นเก่าถึง 157G ทั้งที่มีขอบล้อสูงกว่า

         และนี่ก็คือภาพรวมของชุดขับใหม่ DURA-ACE R9200 จาก SHIMANO ที่พวกเราภูมิใจนำเสนอ เพื่อส่งนักปั่นที่ไม่เคยยอมประนีประนอมให้ไปได้เร็วขึ้นกว่าเดิม… แต่ถ้าใครยังไม่จุใจ เราก็มี Product Detail ของแต่ละชิ้นส่วนมาให้ดูกันชัดๆอีกด้วย

DUAL CONTROL LEVER (2×12 SPEED)

ชิฟเตอร์มีผลิตออกมาทั้งสำหรับ Disc Brake (ST-R9270) และ Rim Brake (ST-R9250) โดยทั้ง 2 รุ่นใช้วัสดุเหมือนกันคือ Carbon Fiber Resin Plastic ที่มีทั้งน้ำหนักเบา และให้สัมผัสระดับพรีเมียม โดยมีจุดแตกต่างกันดังนี้

Hydraulic Disc Brake DUAL CONTROL LEVER (ST-R9270)

– ลดการเชื่อมต่อสายเกียร์ ช่วยให้ Cockpit ดูสะอาดตาขึ้นด้วยการเชื่อมต่อแบบ Wireless
– ใช้งานโดยเชื่อมต่อแบบสายได้เช่นกัน
– ฮู้ดยกสูงขึ้นจึงจับสบายและคอนโทรลรถได้ง่าย ปรับดีไซน์ตามหลักสรีระศาสตร์ให้เข้ากับมือมากขึ้น โดยมีการพัฒนาปรับปรุงร่วมกับนักปั่นโปรทัวร์
– ใช้แรงในการเบรกน้อย ควบคุมเบรกได้ละเอียด เพิ่มขึ้นทั้งพลังและประสิทธิภาพในการควบคุมเบรก
– อายุการใช้งานเฉลี่ยนาน 1.7 ปี

Rim Brake DUAL CONTROL LEVER (ST-R9250)

– รูปทรงและ Texture ใหม่ช่วยเพิ่มความกระชับในการจับ รวมถึงการควบคุมเบรกที่มั่นใจมากขึ้น
– ให้สัมผัสการคลิกเปลี่ยนเกียร์ที่ชัดเจน
– ระยะรีชของก้านมือเบรกสามารถปรับแต่งได้ 14MM
– รองรับการเชื่อมต่อแบบสายเท่านั้น

Satellite Shifter

ชิฟเตอร์รีโมท มีทั้งตำแหน่ง Drop และ Top ขนาดกระทัดรัด เพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง Cockpit

ชิฟเตอร์รีโมทตำแหน่ง Drop (SW-RS801-S)

– รีโมทสปริ้นท์
– ติดตั้งโดยตรงที่แฮนด์ได้เลย
– ความยาวสายเคเบิ้ล 100MM

ชิฟเตอร์รีโมทตำแหน่ง Top (SW-RS801-T)

– ติดตั้งเข้ากับแฮนด์โดยใช้ Cable Tie
– ความยาวสายเคเบิ้ล 260MM

Cassette Sprocket (12 SPEED)

เฟืองหลังใหม่ 12 SPEED (CS-R9200) ใบเฟืองผลิตจากวัสดุไทเทเนียมผสมเหล็กกล้า ส่วนสไปเดอร์ผลิตจากอลูมิเนียม มาพร้อมระบบ Hyperglide+ และโปรไฟล์เฟืองใหม่ ที่ทำให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็ว ลื่นไหล ภายใต้การส่งกำลังสูงสุด รองรับการใช้งานร่วมกับโม่ 12 และ 11 SPEED มี 3 ขนาดให้เลือกใช้

11-28T : 11-12-13-14-15-16-17-18-19-21-24-28T

11-30T : 11-12-13-14-15-16-17-19-21-24-27-30T

11-34T : 11-12-13-14-15-17-19-21-24-27-30-34T (ใหม่)

Crankset (2×12 SPEED)

ชุดจานหน้า (FC-R9200) มีโครงสร้างใบจานหน้าแบบ Hollowglide เสริมวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ มาพร้อมขาจานอะลูมิเนียมแบบ Hollowtech II มีทั้งน้ำหนักที่เบาลง แต่ยังคงความสติฟแข็งแรง ส่งกำลังได้อย่างมั่นใจ ออกแบบโปรไฟล์ฟันใหม่รับกับโซ่ 12 SPEED การเปลี่ยนเกียร์จึงทำได้อย่างแม่นยำและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีตัวเลือกขนาดใบจานใหม่ใหญ่ขึ้น ให้ใช้งานชุดขับเคลื่อนได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม

ความยาวขาจาน : 160 / 165 / 167.5 / 170 / 172.5 / 175 / 177.5 MM

ขนาดใบจาน : 50-34T / 52-36T / 54-40T (ใหม่)

Q-factor : 148 mm

Power Meter Crankset

ขาจาน Power Meter (FC-R9200-P) มาตรฐานใหม่ มีน้ำหนักเบาแต่ยังสติฟแข็งแรงด้วยเทคโนโลยี Hollowtech II เก็บข้อมูลได้แม่นยำขึ้น โดยมีความคลาดเคลื่อนเพียง ±1.5% รวมถึงมีระบบชดเชยอุณหภูมิอัตโนมัติ ที่ช่วยให้การวัดค่าทำได้แม่นยำยิ่งกว่าเดิม เปิดระบบได้รวดเร็วด้วยปุ่ม Switch On ที่ขาจาน มีไฟบอกสถานะในตัว กันน้ำได้ดีเยี่ยม ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไออนแบบชาร์จไฟได้ โดยการชาร์จ 1 ครั้งสามารถใช้งานได้ 300 ชั่วโมง

ความยาวขาจาน : 160 / 165 / 167.5 / 170 / 172.5 / 175 / 177.5 MM

Q-factor: 148 mm

Rear Derailleur

ตีนผีตัวใหม่ (RD-R9250) ผลิตด้วยวัสดุ Carbon Fiber Rasin ยังคงใช้โปรไฟล์แบบ Shadow RD ที่ช่วยลดความเสียหายกับตัวตีนผีหากเกิดอุบัติเหตุ แต่ปรับปรุงการทำงานให้รวดเร็วขึ้นกว่ารุ่นเก่าอย่าง RD-R9150 ถึง 58% รองรับการใช้งานกับเฟืองกว้างขึ้น โดยรองรับเฟืองใบใหญ่สุดที่ขนาด 34T และที่สำคัญ มาในดีไซน์แบบ Compact ที่รวมเอาอุปกรณ์ต่างๆของระบบ Di2 ไว้ในที่เดียว ทั้ง Wireless Unit, ที่ชาร์จแบต, อุปกรณ์เชื่อมต่อ Bluetooth และ ANT+ รวมถึงมีไฟ LED แจ้งเตือนสถานะ ทั้งสถานะของแบตเตอรี่ การเชื่อมต่อ และการทำงานในโหมดต่างๆด้วย

Front Derailleur

สับจานหน้า (FD-R9250) ทำงานได้เร็วที่สุด โดยเร็วกว่าตัว FD-R9150 รุ่นเก่าถึง 45% รองรับการใช้งานกับจานขนาด 50-55T ผลิตจากอะลูมิเนียม ดีไซน์ใหม่เพรียวบางขึ้น ขนาดเล็กลง 33% เลยทำให้มีน้ำหนักเบาลงอยู่ที่ 96G เท่านั้น

Hydraulic Disc Brake Caliper

คาลิเปอร์ใหม่ (BR-9720) มาในดีไซน์ Mono Body เป็นชิ้นเดียว ไร้รอยต่อ ทำให้มีความสติฟสูงสุด และมีน้ำหนักเบาลง ปรับปรุงระยะห่างระหว่างผ้าเบรกเพิ่มขึ้น 10% จึงช่วยลดการเสียดสีกับใบดิสก์ ทำให้เบรกทำงานได้เงียบขึ้น รวมถึงช่วยลดอุณหภูมิลงด้วย และย้ายพอร์ตน้ำมันมาไว้ด้านข้าง จึงเซอร์วิสได้ง่าย สามารถเติมและไล่น้ำมันเบรกได้โดยไม่ต้องถอดออกจากตัวรถ

Dual-Pivot Brake Caliper

ในส่วนของ Rim Brake มีทั้งแบบ Dual-Pivot (BR-R9200) และแบบ Direct Mount (BR-R9210) ที่มีความแข็งแรง น้ำหนักเบา ให้พลังเบรกมาก จึงสามารถควบคุมรถได้อย่างยอดเยี่ยม วัสดุของฝักเบรกเป็นแมกนีเซียม รองรับกับยางหน้ากว้างสุดที่ 28C

C36 Tubeless Disc Brake Wheel (WH-R9270-C36-TL)

ล้อ Full Carbon ขอบสูง 36MM ขอบในกว้าง 21MM โดดเด่นในเรื่องน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับนักปั่นที่ชอบไต่เขา ใช้แพทเทิร์นซี่ลวดแบบ 1:1 ขนาดซี่ลวด 1.5MM ที่เน้นเรื่องการลดน้ำหนักล้อให้เบาลง โดยมีน้ำหนักรวม 1 คู่อยู่ที่ 1,338G เท่านั้น มาพร้อม Free Hub แบบใหม่ DIRECT ENGAGEMENT ที่มีความแข็งแรง ช่วยในการส่งกำลังได้เป็นอย่างดี และมีน้ำหนักเบาอีกเช่นกัน รองรับการใช้งานกับเฟืองหลัง 12 SPEED เท่านั้น

ราคา 52,500 บาท

C50 Tubeless Disc Brake Wheel (WH-R9270-C50-TL)

ล้อสาย All-Round วัสดุ Full Carbon ขอบสูง 50MM ขอบในกว้าง 21MM เป็นล้อที่คุณสมบัติสมดุลกันทั้งเรื่องความแอโร่ ความแข็งแรง และน้ำหนักเบา ให้อัตราเร่งที่ดี และยืนความเร็วได้ดี ใช้แพทเทิร์นซี่ลวดแบบ 1:1 เช่นเดียวกับล้อ C36 จึงยังทำน้ำหนักโดยรวมได้ค่อนข้างดี 1 คู่อยู่ที่ 1,465G มาพร้อม Free Hub แบบใหม่ DIRECT ENGAGEMENT ที่มีน้ำหนักเบา และสติฟแข็งแรง ช่วยในการส่งกำลังได้เป็นอย่างดี รองรับการใช้งานกับเฟืองหลัง 12 SPEED เท่านั้น

ราคา 53,500 บาท

C60 Tubeless Disc Brake Wheel (WH-R9270-C60-TL)

ชุดล้อที่แข็งแกร่งที่สุด โดดเด่นเรื่องความแอโร่ เหมาะสำหรับสายปริ้นท์ วัสดุเป็น Full Carbon ขอบสูง 60MM ขอบในกว้าง 21MM  เลือกใช้แพทเทิร์นซี่ลวดแบบ 2:1 ที่สติฟมากกว่า เพื่อรองรับการปั่นหนักๆ การสปริ้นท์ หรือการใช้งานที่ความเร็วสูง โดยล้อ C60 มีความแข็งแรงมากกว่า C36 และ C50 ถึง 20% และมีน้ำหนักโดยรวมของ 1 คู่อยู่ที่ 1,609G  มาพร้อม Free Hub แบบใหม่ DIRECT ENGAGEMENT เช่นกัน มีความเบาและสติฟแข็งแรง ช่วยในการส่งกำลังได้เป็นอย่างดี รองรับการใช้งานกับเฟืองหลัง 12 SPEED เท่านั้น

ราคา 53,500 บาท

เปิดตัวชุดขับใหม่ SHIMANO Dura-Ace R92002021-09-03T11:49:17+07:00

เจาะลึก! รองเท้า SHIMANO S-PHYRE RC902

รองเท้าเสือหมอบรุ่นท็อปคลาสซีรี่ส์ S-PHYRE ที่พานักปั่นมือโปรเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน วันนี้รุ่นใหม่ RC902 มาในคอนเซปต์ FOCUS ON EVERY DETAIL – FOCUS ON FAST ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อให้สามารถดึงศักยภาพการปั่นของคุณออกมาได้ถึงขีดสุด จนกลายเป็นรองเท้าเสือหมอบที่รวดเร็วที่สุดจาก SHIMANO เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักปั่นที่โฟกัสในชัยชนะและการทำความเร็วให้ได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยยังคงไว้ซึ่งความสบายในการสวมใส่ ส่วนจะมีฟังก์ชั่นอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น เราไปดูกันเลย

ส่วนบนของรองเท้าผลิตจากวัสดุพิเศษในรูปแบบของหนังเสริมตาข่าย ที่มีโครงสร้างช่วยให้วางเท้าได้นิ่งขึ้น จึงทำให้สูญเสียแรงปั่นอย่างเปล่าประโยชน์ไปน้อยที่สุด และส่งแรงไปยังบันไดได้อย่างเต็มที่ รวมถึงสวมใส่สบายแต่ก็ยังคงความทนทานและระบายอากาศได้ดีอีกด้วย

ส่วนหุ้มส้นเท้าด้านหลังถูกออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มความมั่นคงของส้นเท้าขณะปั่น ช่วยลดการบิดของส้นเท้าที่อาจเกิดขึ้นเมื่อออกแรงเร่งความเร็ว โดยมีการเสริมแผ่นคาร์บอนบริเวณส้นเท้าเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ทำให้การส่งแรงปั่นไปยังบันไดมีความเสถียรมากขึ้น

ส่วนบนของรองเท้าถูกออกแบบมาให้รองรับพอดีได้กับสรีระเท้าทุกแบบ โอบรัดรอบทิศทางประดุจรังไหม ให้ความสบายในการสวมใส่อย่างสูงสุด นอกจากนี้ยังมีปุ่มปรับกระชับรุ่นใหม่ สามารถหมุนปรับได้ 2 ทิศทาง จึงปรับกระชับได้ง่าย ละเอียด และรวดเร็ว

ใครที่กังวลเรื่องน้ำหนักก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะ RC902 รุ่นนี้มาในน้ำหนักเพียงข้างละ 235 g เท่านั้น ซึ่งจัดว่าเป็นน้ำหนักที่เบามากๆ พื้นรองเท้าผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีค่า Stiffness สูงสุดจาก SHIMANO คือ 12 จึงมั่นใจได้ถึงความสามารถในการส่งผ่านแรงปั่นไปยังบันได

รุ่นผู้ชายมีด้วยกันทั้งหมด 4 สี ได้แก่ น้ำเงิน, ดำ, แดง, ขาว

รุ่นผู้หญิงมาในทรงรองเท้าที่ถูกออกแบบให้แคบลง เพื่อให้กระชับพอดีกับสรีระเท้าของผู้หญิงได้มากกว่า แต่ยังคงฟีเจอร์ไว้ครบครันเหมือนกันรุ่นของผู้ชาย มาในสีขาวสีเดียวเท่านั้น

เจาะลึก! รองเท้า SHIMANO S-PHYRE RC9022021-09-08T16:21:13+07:00

การเลือกใช้โซ่ SHIMANO ให้เหมาะกับชุดขับ

ถ้าชุดขับเคลื่อนของคุณเริ่มอาการไม่ค่อยดี อะไรจะเป็นสิ่งแรกที่คุณนึกถึง? เชื่อว่าคำตอบของนักปั่นหลายๆคนคงจะเป็น “โซ่” ซึ่งก็ไม่ใช่คำตอบที่ผิดนัก เพราะโซ่มักจะเป็นอุปกรณ์ชิ้นแรกๆที่เสื่อมสภาพ อาจเสียหายจากการใช้งาน ขึ้นสนิม ยืด ย้วย หรือประสิทธิภาพเสื่อมลงไปตามอายุขัย ซึ่งการฝืนใช้โซ่ที่เสื่อมสภาพไปเรื่อยๆ นอกจากจะรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจที่เปลี่ยนเกียร์ไม่ลื่นไหลแล้ว ยังมีผลทำให้ชุดขับเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกด้วย ดังนั้นการเปลี่ยนโซ่เมื่อถึงเวลาที่ควรเปลี่ยน และการใช้โซ่ที่เข้ากันได้กับชุดขับ จึงเป็นการช่วยถนอมชุดขับได้อีกทาง โดยโซ่ที่ดีที่สุดสำหรับจักรยานของคุณ คือโซ่ที่มีโปรไฟล์เข้ากันได้ดี กับชุดขับนั่นเอง อย่างชุดขับของ SHIMANO แต่ละรุ่นจะถูกออกแบบเป็น “ชุด” ไม่ใช่เป็น “ชิ้น” คือนอกจากคำนึงถึงประสิทธิภาพของแต่ละชิ้นแล้ว ยังคิดถึงความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ทั้งชุดด้วย ซึ่งโซ่เองก็เป็นหนึ่งในนั้น

โซ่ของ SHIMANO ถูกออกแบบตัดแต่งทรงให้เข้ากันกับเฟืองและใบจาน โดยเฉือนส่วนโค้งของข้อต่อแต่ละตัวออกเล็กน้อย เพื่อลดการเสียดสีกับเฟืองและใบจาน เป็นการช่วยลดการสึกหรอของอุปกรณ์ชิ้นอื่นที่ใช้งานร่วมกับโซ่ลง หรืออย่างโซ่สำหรับเฟือง 11 SPEED และ 12 SPEED จะถูกออกแบบมาให้ทั้ง 2 ด้านของโซ่มีความหนาบางไม่เท่ากัน โดยด้านในของโซ่จะบางกว่าเพื่อรองรับกับเฟือง 11 และ 12 SPEED ที่เฟืองแต่ละใบอยู่ชิดกันมากขึ้น หากใช้โซ่แบบเดิมก็อาจเกิดการสะกิดกันของโซ่และเฟืองตลอดเวลา จึงทำให้ทั้งการเปลี่ยนเกียร์และการปั่นไม่สมูทอีกด้วย ซึ่งการใช้โซ่ที่ไม่เข้ากันกับชุดขับจะไปลดทอนประสิทธิภาพในการเปลี่ยนเกียร์ และเมื่อใช้งานนานๆไปยิ่งทำให้อุปกรณ์ชิ้นอื่นเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร การเลือกใช้โซ่จึงควรดูที่ ความเข้ากันได้กับชุดขับเป็นหลัก โดยโซ่ที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่โซ่ที่ลื่นที่สุดหรือเบาที่สุด แต่ควรเป็นโซ่ที่ช่วยทำให้การเปลี่ยนเกียร์มีประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง

SHIMANO มีตัวเลือกโซ่อยู่หลากหลายรุ่น และมีรุ่นขายดีคือโซ่ DURA-ACE, ULTEGRA และ 105 โดยทุกรุ่นผลิตจากวัสดุเหล็กกล้าผสมโครเมียม และมีโปรไฟล์โซ่เหมือนกัน จึงสามารถเลือกใช้ข้ามรุ่นกันได้เลย เช่น ใช้โซ่ DURA-ACE กับชุดขับ 105 เป็นต้น ข้อแตกต่างของโซ่แต่ละรุ่นจะอยู่ ที่การเคลือบผิวและน้ำหนักเป็นหลัก โดยโซ่ 105 จะมีการชุบผิวเฉพาะข้อต่อด้านใน แต่โซ่ ULTEGRA จะชุบผิวทั้งด้านนอกและด้านใน จึงป้องกันการเป็นสนิมได้ดีกว่า ส่วนโซ่ DURA-ACE มีการชุบผิวเหมือน ULTEGRA แต่จะใช้หมุดยึดโซ่แบบกลวงจึงมีน้ำหนักเบากว่า นอกจากเลือกโซ่ที่เข้ากันได้ดี กับชุดขับแล้ว อย่าลืมหมั่นทำความสะอาดโซ่เป็นประจำ เพื่อกำจัดเศษกรวดทรายที่ จะทำให้โซ่ทำงานติดขัด รวมถึงคอยหยอดน้ำมันหล่อลื่น เพื่อให้ชุดขับทำงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และช่วยยืดอายุของชุดขับให้อยู่กับคุณได้นานๆ

โซ่ DURA-ACE 11 SPD (CN-HG901) ราคา 1,370 บาท

โซ่ ULTEGRA 11 SPD (CN-HG701) ราคา 1,000 บาท

โซ่ 105 11 SPD (CN-HG601) ราคา 870 บาท

 

สอบถามและสั่งซื้อสินค้า หรือเข้ารับการเซอร์วิสจักรยานได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

hahhong.com/dealer/

 

 

 

 

 

 

 

 

#imwithshimano #imwithshimanoSEA #RideShimano #RideShimanoSEA #allfortheride #allfortherideSEA

การเลือกใช้โซ่ SHIMANO ให้เหมาะกับชุดขับ2021-08-19T11:04:28+07:00

หมวกจักรยาน LAZER ลดกระหน่ำรับหน้าฝน ‼️

วันนี้เรามาพร้อมกับโปรจัดหนัก เอาหมวก Performance ยอดเยี่ยมทั้ง 3 รุ่นมาหั่นราคา ให้คุณเป็นเจ้าของได้แบบคุ้มค่ายิ่งกว่า เลือกได้ทุกสีทุกไซส์ รับประกัน 1 ปีเต็มเหมือนเดิม

Lazer Bullet 2.0

หมวกที่เร็วที่สุดในทรง Aero จาก Lazer หมวกระดับ
นักปั่นโปรทัวร์ ทีม JUMBO VISMA เลือกใช้ในสเตจทางเรียบ
Size: S,M,L (Asian Fit)

จาก 7,200 บาท เหลือเพียง 5,900 บาท ‼️

Lazer Z1

หมวก all round ตัวท๊อปน้ำหนักเบายอดนิยมตลอดกาล

Size: S,M,L

จาก 5,600 บาท เหลือเพียง 3,990 บาทเท่านั้น ‼️

Lazer Century

หมวกจักรยานที่ผสมความ All round เเละ Aero ในใบเดียว มาพร้อมกับฟีเจอร์มากมาย

Size: S,M,L (Asian Fit)

จาก 4,800 บาท เหลือเพียง 3,200 บาทเท่านั้น ‼️

ราคาดีๆแบบนี้ต้องรีบไปจับจองกันหน่อย เพราะถ้าของหมดพลาดแล้วพลาดเลยนะ!

ระยะเวลาโปรโมชั่น วันนี้ – 30 กันยายน 2564 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

สามารถซื้อสินค้าโปรโมชั่นได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
hahhong.com/dealer/

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด โปรดตรวจสอบรายละเอียด  จุดขาย

*สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 

#UseYourHead #LazerSportSEA

หมวกจักรยาน LAZER ลดกระหน่ำรับหน้าฝน ‼️2021-07-13T16:22:04+07:00

รองเท้า SHIMANO XC END OF SEASON SALE ‼️

รองเท้าจักรยานเสือภูเขาลดกระหน่ำส่งท้ายฤดูกาลสูงสุดถึง 40%

SHIMANO XC300 จาก 3,200 เหลือเพียง 2,490 บาท

SHIMANO XC501 จาก 4,400 เหลือเพียง 2,700 บาท

SHIMANO XC701 จาก 6,500 เหลือเพียง 3,990 บาท

SHIMANO XC901 จาก 11,500 เหลือเพียง 7,000 บาท

แถมถุงเท้า SHIMANO ORIGINAL TALL SOCKS มูลค่า 500 บาท ฟรี‼️

ราคาดีๆแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ ใครเล็งรุ่นไหนให้รีบไปจับจองเป็นเจ้าของ เพราะช้าหมด อดแล้วจะเสียดาย!

 

 

ระยะเวลาโปรโมชั่น 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2564 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด สามารถซื้อสินค้าโปรโมชั่นได้ที่
ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ hahhong.com/dealer/

#imwithshimano #RideShimano #SPHYRESEA #allfortheride

 

 


*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด โปรดตรวจสอบรายละเอียด ณ จุดขาย
*สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

รองเท้า SHIMANO XC END OF SEASON SALE ‼️2021-07-01T09:40:54+07:00

แนะนำสูบลมตั้งพื้น PRO

เพราะลมยางเป็นเรื่องสำคัญ! สูบอ่อนไปก็หนืดปั่นไม่ออก สูบแข็งไปก็ไม่เกาะถนน ไม่สูบเลยยิ่งแล้วใหญ่ เพราะอาจทำให้ยางเสื่อมสภาพได้ ก่อนออกปั่นทุกครั้งจึงควรเช็คลมยางของคุณให้ดี อย่าลืมสูบลมให้ได้ค่าที่เหมาะสม ดังนั้นนักปั่นทุกท่านจึงควรมีที่สูบลมติดบ้านเอาไว้สักเครื่อง และถ้าหากคุณกำลังมองหาที่สูบลมดีๆ ทนทานคุ้มค่าคุ้มราคาสักอัน เรามีที่สูบลมตั้งพื้น 3 รุ่น 3 ราคามาแนะนำ มีรุ่นอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!

และถ้าอยากดูรีวิวชัดๆ ก็สามารถดูคลิปของพวกเราได้ที่นี่

#PROBikegear #PowerYourPerformance  #PowersYourPerformance #UpgradeOutperform #probikegearSEA



PRO TEAM TUBELESS FLOOR PUMP

ใครมีจักรยานหลายแบบแนะนำรุ่นนี้เลย เพราะเป็นสูบตั้งพื้น 2 in 1 ที่ใช้สูบได้ทั้งยางแบบมียางในทั่วไป และยางแบบ TUBELESS มาพร้อมหัวเดี่ยวที่ใช้ได้กับทั้งวาล์ว Presta และ Schrader

วัสดุ : โลหะผสม

รองรับแรงดันสูงสุด : 11 Bar / 160 PSI

ราคา : 3,550 บาท


PRO TEAM FLOOR PUMP

ปั๊มลมได้แม่นยำพร้อมมาตรวัดความดัน 2 ทาง บอกค่าได้ละเอียดในช่วงความดันต่ำ หัวสูบใช้ได้กับทั้งวาล์ว Presta และ Schrader

วัสดุ : โลหะผสม

รองรับแรงดันสูงสุด : 15 Bar / 220 PSI

ราคา : 3,200 บาท


PRO COMPETITION FLOOR PUMP

สูบตั้งพื้นแบบมาตรฐานที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย มีทั้งวาล์ว Presta และ Schrader 2 หัวสูบแยกจากกัน

วัสดุ : เหล็ก

รองรับแรงดันสูงสุด : 11 Bar / 160 PSI

ราคา : 1,450 บาท

สนใจติดต่อ hahhong.com/dealer/

แนะนำสูบลมตั้งพื้น PRO2021-06-21T15:17:11+07:00

Title

Go to Top