ความเป็นมาของ LAZER
ในโลกจักรยาน ถ้าพูดถึงหมวกจักรยานที่ใครหลาย ๆ คนไว้วางใจ แน่นอนว่าชื่อ LAZER ต้องติดอันดับต้น ๆ แน่นอน เพราะนักแข่งชั้นนำระดับโลกอย่าง Jonas Vingegaard, Tom Dumoulin และ Primož Roglič ก็ล้วนเคยใส่ LAZER มาทั้งนั้น
LAZER มีจุดกำเนินอยู่ที่ ประเทศเบลเยียม ประเทศที่ขึ้นชื่อได้ว่าจักรยานเป็นหนึ่งในกีฬาที่ยอดนิยมที่สุดในประเทศ โดยในปี 1919 พี่น้อง Lacroix ได้ก่อตั้งเวิร์กช็อปทำเครื่องหนังสำหรับมอเตอร์ไซค์ขึ้นมา แล้วต่อยอดจนสามารถสร้างหมวกกันน็อคอลูมิเนียมได้สำเร็จเป็นคนแรกของโลกในปี 1948 และในปี 1980 ได้ทำการเปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิมที่ใช้ชื่อว่า “Cross” ให้กลายมาเป็น LAZER และเริ่มต้นหันมาพัฒนาหมวกจักรยานมาจนถึงปัจจุบัน
นับตั้งแต่นั้นมา LAZER มีความมุ่งมั่นในการสร้างหมวกจักรยานที่ปลอดภัยและสวมใส่สบาย อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 45 ปี และได้กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์หมวกจักรยานชั้นนำที่ได้คิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ และพัฒนาหมวกจักรยานที่ไม่เพียงแต่มีดีไซน์ที่สวยงาม แต่ยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันสูงสุดออกมาอย่างต่อเนื่อง
เทคโนโลยี KinetiCore: เมื่อการปกป้องไม่ใช่แค่ “เสริมเข้าไป” แต่ “ฝังอยู่ในตัว”
KinetiCore คือผลลัพธ์จากการพัฒนาที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2010 โดยทีมวิจัยและพัฒนาของ LAZER มีเป้าหมายในการสร้างหมวกจักรยานที่สามารถป้องกันแรงกระแทกแบบหมุน (Rotational Impact) ได้ดีขึ้น ด้วยน้ำหนักเบาลง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แตกต่างจากการติดตั้งเทคโนโลยีเพิ่มเติมแบบเดิม ๆ
นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ LAZER ถอยห่างออกมาจาก เทคโนโลยี MIPS ที่หมวกจักรยานหลายเจ้าใช้กัน เพราะแม้ MIPS จะเป็นระบบที่ช่วยลดแรงกระแทกแบบหมุนได้ดี แต่มันทำงานโดยต้องอาศัยโดยการเพิ่มชั้นเลื่อน (slip-plane) ภายในหมวกเข้าไปอีกหนึ่งชั้น การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้หมวกมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นแล้ว แต่ยังต้องใช้พลาสติกมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งขัดกับเป้าหมายและความต้องการของแบรนด์
KinetiCore จึงแตกต่างจาก MIPS ตรงที่ไม่ได้มีการเพิ่มอุปกรณ์พิเศษเข้าไปในหมวก แต่อาศัยการออกแบบโครงสร้างภายในให้มี Controlled Crumple Zones หรือ “โซนยุบที่มีการออกแบบเฉพาะ” มาช่วยดูดซับและกระจายแรงกระแทกออกจากสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งจากการกระแทกโดยตรงและแรงหมุน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการบาดเจ็บรุนแรงในอุบัติเหตุจักรยาน
การพัฒนา KinetiCore อาศัยหลักการเดียวกันกับโครงสร้างความปลอดภัยของรถยนต์ที่จะมีรูปแบบการยุบตัวเพื่อปกป้องผู้โดยสารภายใน นอกจากนี้ ผลทดสอบจากองค์กรอิสระ อย่าง Virginia Tech Helmet Ratings ยังยืนยันว่า หมวกที่ใช้เทคโนโลยี KinetiCore ให้ประสิทธิภาพการป้องกันระดับสูงสุด (5 ดาว) เทียบเท่า หรือดีกว่า หมวกที่ใช้เทคโนโลยีแบบติดตั้งเสริมอย่าง MIPS อีกด้วย
4 เสาหลักของ KinetiCore
หมวกจักรยานของ LAZER ที่ใช้เทคโนโลยี KinetiCore จะมีคุณสมบัติที่โดดเด่นและเหนือกว่าหมวกจักรยานอื่น ๆ ใน 4 ด้าน ได้แก่
การป้องกันแรงกระแทก: นวัตกรรมการป้องกันใหม่ที่เหนือกว่าระบบเดิม โดยใช้ Controlled Crumple Zones หรือบล็อกโฟม EPS ที่ออกแบบให้ยุบตัวเมื่อเกิดการกระแทก เพื่อดูดซับพลังงานจากแรงกระแทกทั้งทางตรงและแรงหมุนก่อนที่จะไปถึงสมองของนักปั่น เพิ่มความปลอดภัยในระดับที่สูงขึ้นอย่างแท้จริง อีกทั้ง หมวกที่ใช้เทคโนโลยี KinetiCore ล้วนผ่านการทดสอบจากสถาบันรับรองมาตรฐานความปลอดภัยชั้นนำ อาทิ CE (ยุโรป) CPSC (สหรัฐอเมริกา) และ AS/NZS (ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์)
การระบายอากาศ: เพราะหมวกที่เย็นสบายช่วยให้นักปั่นทำผลงานได้ดียิ่งขึ้น KinetiCore เพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศได้สูงสุดถึง 12% ด้วยการออกแบบช่องระบายอากาศที่วางตำแหน่งอย่างชาญฉลาด ช่วยนำลมเย็นเข้าสู่ด้านในและผลักลมร้อนออกทางด้านหลังของหมวก ทำให้การขี่จักรยานเป็นประสบการณ์ที่เย็นสบายตลอดเส้นทาง
เบากว่าเดิม: หมวกที่เบาขึ้น ไม่เพียงเพิ่มความสบายขณะสวมใส่ แต่ยังช่วยเรื่องความเร็วและแอโรไดนามิก KinetiCore ถูกออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของหมวกตั้งแต่ต้น ลดการใช้โฟม EPS และพลาสติกโดยไม่ลดทอนการปกป้อง ทำให้น้ำหนักหมวกเบาลง สูงสุดถึง 23%
รักษ์โลกกว่าเดิม: หนึ่งในเป้าหมายของ KinetiCore คือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หมวกที่ใช้เทคโนโลยีนี้ลดปริมาณการใช้พลาสติกและโฟมเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการลดการใช้วัสดุได้สูงสุด 100 กรัม โดยไม่ต้องเพิ่มชิ้นส่วนเสริมเข้าไป แต่พัฒนาการปกป้องและสมรรถนะให้ดีขึ้นในตัวเอง
ไลน์อัพหมวก LAZER KinetiCore
ปัจจุบัน LAZER ได้นำเทคโนโลยี KinetiCore มาใช้กับหมวกหลากหลายรุ่น ครอบคลุมทุกกลุ่มนักปั่น ไม่ว่าจะเป็น:
กลุ่มนักปั่นเสือหมอบ/แข่งขัน(ROAD):
LAZER Z1 KinetiCore: หมวกไฮเอนด์น้ำหนักเบาพิเศษ มาพร้อมการระบายอากาศยอดเยี่ยม และมาตรฐานการป้องกันสูงสุด เหมาะสำหรับนักปั่นที่เน้นความเร็วและความปลอดภัย
ราคา 7,600 บาท
LAZER Vento KinetiCore: หมวกถนนทรงแอโรไดนามิก ออกแบบให้ลู่ลมสูงสุด เหมาะสำหรับการแข่งขันที่ต้องการทำเวลา
ราคา 8,000 บาท
LAZER Strada KinetiCore: หมวกถนนอเนกประสงค์ น้ำหนักเบา ระบายอากาศดี ตอบโจทย์นักปั่นที่ต้องการหมวกที่ใช้งานได้ครอบคลุมทั้งซ้อมและแข่ง
ราคา 3,200 บาท
กลุ่มนักปั่นเสือภูเขา (MTB):
LAZER Jackal KinetiCore: หมวกสำหรับสายลุยที่ต้องการการป้องกันรอบด้าน มาพร้อมการปกป้องเต็มใบและระบบระบายอากาศที่ดีเยี่ยม รองรับการใช้งานร่วมกับแว่นตาและกล้อง GoPro
ราคา 5,500 บาท
กลุ่มนักปั่นเมือง/ออกกำลังกาย (City):
LAZER Tonic KinetiCore: หมวกทรงสวย น้ำหนักเบา สำหรับนักปั่นฟิตเนสและผู้ที่ใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน ให้ความสมดุลระหว่างความสบายและความปลอดภัย
ราคา 2,300 บาท
LAZER Tempo KinetiCore: หมวกจักรยานสำหรับผู้เริ่มต้น เน้นความง่ายในการใช้งาน น้ำหนักเบา ใส่สบาย ราคาเข้าถึงง่าย
ราคา 1,650 บาท
กลุ่มเด็ก (Kids):
LAZER Nutz KinetiCore: หมวกสำหรับเด็กที่ให้การปกป้องสูงสุดตั้งแต่ขี่ครั้งแรก ด้วยการออกแบบเฉพาะสำหรับศีรษะเด็ก พร้อมเทคโนโลยีป้องกันการกระแทกแบบหมุน
ราคา 1,400 บาท
LAZER P’NUT KinetiCore: หมวกสำหรับเด็กเล็ก ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับที่นั่งเด็ก (child seats) และจักรยานขนาดเล็ก มาพร้อมระบบป้องกัน KinetiCore เพื่อความปลอดภัยสูงสุดตั้งแต่วัยเริ่มต้น
ราคา 1,400 บาท
KinetiCore คือก้าวกระโดดครั้งสำคัญในโลกหมวกจักรยาน ที่ไม่ใช่แค่ให้ “การปกป้อง”
แต่รวมถึง ความสบาย, สมรรถนะการระบายอากาศ, น้ำหนักเบา และ การออกแบบอย่างยั่งยืน เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์
ไม่ว่าคุณจะปั่นเพื่อแข่งขัน เพื่อฟิตร่างกาย หรือเพียงต้องการปกป้องคนที่คุณรัก — LAZER KinetiCore คือคำตอบที่คุณเชื่อถือได้ในทุกเส้นทาง
หากสนใจสินค้า LAZER KinetiCore สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ https://hahhong.com/dealer/ หรือ Inbox สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/hahhongth