“เขาว่ากันว่าหากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการปั่น การซื้อรองเท้าคลีทมาใช้เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด”

เมื่อปั่นจนคุ้นเคยก็เริ่มมีเสียงแว่วมาเข้าหูว่าให้เปลี่ยนไปใช้รองเท้าคลีทสิ ลองใส่รองเท้าคลีทดูสิ แล้วการปั่นของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป… ก็ได้ยินแต่เขาบอกกันว่าดี แต่จะจริงหรือเปล่า แล้วดีอย่างไร วันนี้เรามาไขข้อสงสัยกันว่าทำไมถึงต้องเป็น “รองเท้าคลีท”

Q : รองเท้าคลีทต่างกับรองเท้าประเภทอื่นอย่างไร?

A : รองเท้าคลีทมีพื้นรองเท้าที่แข็งกว่ารองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าประเภทอื่น เพื่อช่วยให้การส่งแรงกดของขาไปยังบันไดนั้นเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากรองเท้ากีฬาทั่วไปจะมีพื้นค่อนข้างนุ่มเพื่อรองรับแรงกระแทก แต่เมื่อนำไปใช้ปั่นจักรยาน พื้นรองเท้าที่นุ่มนั้นจะดูดซับแรงกดของเราไปด้วย ทำให้ส่งแรงไปยังบันไดได้ไม่เต็มที่ แถมยังเสี่ยงต่อการโดนบันไดกดจนพื้นรองเท้าเป็นรอยเสียหาย รองเท้าคลีทจะมีที่ติดตั้งคลีทเพื่อล็อคเท้าของเรากับบันไดจักรยานจึงไม่มีปัญหา

Q : คลีทคืออะไร?

A : แผ่นที่ใช้ติดใต้รองเท้าเพื่อล็อคเท้าของเรากับบันไดจักรยาน ต้องใช้คู่กับบันไดที่มีตัวล็อคคลีท หรือที่เรียกว่าบันไดคลิปเลส(Clipless)

Q : รองเท้าคลีทช่วยในการปั่นอย่างไร?

A : หน้าที่หลักของคลีทคือช่วยล็อคเท้าของเราให้ติดกับบันได้ ซึ่งช่วยในการปั่นได้ดังนี้

ปกติแล้วในการปั่น เราจะสามารถออกแรงกดบันไดได้อย่างเดียว สลับข้างซ้ายขวากันไป ทำให้ใช้แรงได้ไม่เต็มที่ แต่เมื่อเราใช้รองเท้าคลีทและล็อคเท้าของเราติดกับบันได จะทำให้สามารถออกแรงดึงบันไดเพิ่มขึ้นได้อีกทาง ทำให้สามารถควงขาได้เต็มรอบ คือขาข้างหนึ่งกดบันไดลง ส่วนขาอีกข้างดึงบันไดขึ้น ใช้แรงที่ส่งออกไปยังบันไดให้เกิดประสิทธิภาพได้สูงสุด

เมื่อเปลี่ยนการออกแรงจากกดบันไดอย่างเดียวเป็นทั้งกดและดึง ทำให้ได้ใช้กล้ามเนื้อมากขึ้น จากการกดบันไดที่ใช้เพียงกล้ามเนื้อส่วนหน้าของขา คือกล้ามเนื้อบริเวณหน้าขาส่วนต้นขา หัวเข่า และข้อเท้า เมื่อเราได้ออกแรงดึงบันไดเพิ่มขึ้น จะทำให้ได้ใช้กล้ามเนื้อส่วนหลังของขาด้วย คือกล้ามเนื้อบริเวณสะโพก กล้ามเนื้อต้นขาส่วนหลัง และน่อง ซึ่งการใช้กล้ามเนื้อหลายส่วนในการออกแรงควงขานี้เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของกล้ามเนื้อ ทำให้ขาล้าช้าลง จึงสามารถปั่นได้นานขึ้น ไกลขึ้น และสนุกยิ่งขึ้น
นอกจากการทำงานของกล้ามเนื้อแล้ว ตำแหน่งในการวางเท้าเองก็มีผลต่อการส่งแรงไปยังบันได โดยตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในการวางเท้าบนบันไดเพื่อให้สามารถส่งแรงขาได้เต็มประสิทธิภาพ คือตำแหน่งกึ่งกลางระหว่างกระดูกนิ้วโป้งเท้ากับนิ้วก้อยเท้า และเจ้าคลีทนี่เองที่จะช่วยล็อคให้เท้าเราอยู่ในตำแหน่งที่ส่งแรงไปยังบันไดได้ดีที่สุดตลอดการปั่น
นอกจากเพิ่มประสิทธิภาพในการปั่นแล้ว การล็อคเท้าไว้กับบันไดยังสามารถช่วยลดอุบัติเหตุโดนบันไดฟาดจากอาการขาวืด หรือการที่เท้าเลื่อนหลุดออกจากบันไดเมื่อยืนปั่นหรือออกแรงกดบันไดมากๆ รวมถึงป้องกันไม่ให้รองเท้าสีกับขาจานจนเป็นรอยอีกด้วย

Q : เลือกรองเท้าคลีทอย่างไรดี?

A : รองเท้าคลีทเองก็ถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะการปั่นเช่นเดียวกับจักรยาน โดยควรเลือกสวมใส่รองเท้าที่เหมาะกับการใช้งาน แต่ข้อที่สำคัญที่สุดก็คือต้องใส่สบาย การซื้อรองเท้าคลีทสักคู่จึงควรไปจับไปลองสวมรองเท้าจริงๆ เพราะบางทีรองเท้าที่เรามองว่าดีไซน์สวยงาม อาจไม่ได้เข้ากันกับทรงเท้าของเราก็ได้

อีกข้อสังเกตหนึ่งในการเลือกรองเท้าคลีทคือค่า Stiff หรือ Stiffness หมายถึงค่าความแข็งของพื้นรองเท้า โดยยิ่งมีค่า Siff สูงมากหมายถึงพื้นยิ่งแข็งมาก ซึ่งพื้นแข็งๆนี้เองที่ช่วยให้ส่งแรงได้ดีมากยิ่งขึ้น

Q : รองเท้าคลีทแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร?

A :
รองเท้าคลีทเสือหมอบและรองเท้าไตรกีฬา
มีพื้นรองเท้าแข็งกว่ารองเท้าคลีทประเภทเสือภูเขา รวมถึงมีแผ่นคลีทที่ใหญ่กว่า เพื่อใช้ในการส่งแรงไปยังบันไดให้ได้มากที่สุด ล็อคเท้ากับบันไดได้แน่นกว่า มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเร็ว มีข้อเสียคือเดินลำบากเนื่องจากพื้นค่อนข้างลื่น เรียกได้ว่าเป็นรองเท้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ปั่นจักรยานโดยเฉพาะ
รองเท้าคลีทเสือภูเขา
มีพื้นรองเท้าอ่อนกว่ารองเท้าคลีทประเภทเสือหมอบ แต่ก็ยังแข็งกว่ารองเท้าผ้าใบทั่วไป รวมถึงมีแผ่นคลีทที่เล็กกว่า ความแข็งของสปริงที่ล็อคเท้ากับบันได เมื่อเทียบกับรองเท้าเสือหมอบจะสามารถถอดและใส่ได้คล่องตัวกว่า รวมถึงมีสันรอบตัวคลีทเพื่อป้องกันไม่ให้แผ่นคลีทครูดกับพื้นเวลาเดิน เมื่อลงจากจักรยานแล้วสามารถเดินได้สะดวกกว่า ตามลักษณะการปั่นของเสือภูเขาที่ต้องเข้าป่าลุยดินลุยโคลนขึ้นเขาเขาลงเนิน จึงเน้นความคล่องตัวมากกว่าการทำความเร็ว

รองเท้าระดับ Mid-Range จาก SHIMANO

ผลิตจากวัสดุหนังซินเทติคระบายอากาศได้ดี มาพร้อมเทคโนโลยี SHIMANO Dynalast ที่ออกแบบมาให้รองรับเท้าได้ทุกรูปแบบ ให้ Performance ใกล้เคียงกับรุ่นท็อปที่ใช้ในการแข่งขัน มาพร้อมปุ่ม BOA L6 ช่วยให้ปรับกระชับได้ละเอียดและง่ายดาย รวมถึงมีรุ่นผู้หญิงโดยเฉพาะ ที่ออกแบบมาให้รองรับเข้าสรีระเท้าของผู้หญิงได้มากกว่

  • รองเท้า RC500 และ RC500 WOMEN ราคา 4,200 บาท
  • รองเท้า XC501 และ XC501 WOMEN ราคา 4,400 บาท
รองเท้าระดับ Racing จาก SHIMANO
ผลิตจากวัสดุหนังซินเทติคระบายอากาศได้ดี มาพร้อมเทคโนโลยี SHIMANO Dynalast ที่ออกแบบมาให้รองรับเท้าได้ทุกรูปแบบ ให้ Performance ระดับ Top-End รวมถึงหน้ารองเท้าที่กว้างกว่า ใส่สบายยิ่งขึ้น ส่วนอุปกรณ์ปรับกระชับของรุ่น TR901 สำหรับแข่งไตรกีฬาเป็นสาย Quick Straps ใส่ง่ายถอดง่าย รุ่น RC701 และ XC701 มาพร้อม BOA L6 2 ปุ่มที่ช่วยให้ปรับกระชับได้ละเอียดยิ่งกว่า ส่วนตัวท็อปสุดอย่าง XC901 มี BOA IP1 ถึง 2 ปุ่ม ซึ่งปรับกระชับได้ละเอียดและง่ายที่สุด
  • รองเท้า TR901 ราคา 6,900 บาท
  • รองเท้า RC701 ราคา 6,500 บาท
  • รองเท้า XC701 ราคา 6,500 บาท
  • รองเท้า XC901 ราคา 11,500 บาท

ค้นหาร้านค้าตัวแทนจำหน่ายใกล้ท่านได้ที่: https://hahhong.com/dealer/