มีการพัฒนาในเรื่องวัสดุและคุณภาพของเลนส์ให้มีความคมชัดยิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี Ridescape สำหรับแว่นตาของ Shimano รุ่น Top แบ่งเป็นรุ่น S-Phyre R และ S-Phyre X ส่วนรุ่นอื่นๆจะอยู่ในซีรี่ส์ Shimano eyewear

เทคโนโลยี Ridescape คือเลนส์แว่นที่ทำให้ตาเรามองเห็นสีเข้มขึ้น รายละเอียดบนถนนชัดเจนขึ้น เส้นถนนจะมีความชัดเจน ลดภาพมัว ช่วยให้การปั่นมีประสิทธิภาพ เพิ่มความมั่นใจขึ้น เลนส์ Ridescape ทั้งหมดเปลี่ยนมาใช้วัสดุ Polyamide แทนวัสดุ Polycarbonate ทำให้น้ำหนักลดลงไป 16.4% เมื่อเทียบกับตัว S-Phyre R รุ่นก่อน

โดยเลนส์ Ridescape แบ่งเป็น 5 ประเภท ซึ่งมีการออกแบบให้ตรงตามสภาพแวดล้อมที่เราปั่น

  • Ridescpae ES (Extra sunny)
    ตัวนี้เหมาะกับการปั่นบนท้องถนน ที่มีสภาพอากาศที่แดดจ้า ตัวเลนส์มีคุณสมบัติกรองแสงที่ผ่านเข้ามาได้แค่ 13%
  • Ridescape RD (All around road)
    ตัวนี้เหมาะสำหรับการปั่นบนท้องถนนทั่วไป ตัวเลนส์ออกแบบมาเพื่อช่วยกรองแสงรบกวนที่กระทบกับพื้นถนน สามารถมองเห็นเส้นถนนหรือสิ่งกีดขวางที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและการเปลี่ยนแปลงของถนนได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
  • Ridescape OR (Off-road)
    เป็นเลนส์ที่เหมาะกับการปั่น off-road / trail ตัวเลนส์ออกแบบมาสำหรับการมองที่หลากหลาย แต่เลนส์จะกรองแสงน้อยกว่า Road เนื่องจากการปั่นในป่า บางช่วงมีแสงน้อยตัวเลนส์จึงปรับให้สามารถมองเห็นใบไม้ รากไม้ กิ่งไม้ได้ชัดขึ้น
  • Ridescape GR (Open off-road)
    ถูกออกแบบมาสำหรับพื้นผิวที่หลากหลาย เลนส์นี้เหมาะกับการปั่น Adventure หรือการปั่นทัวริ่ง
  • Ridesape CL (Cloudy)
    เหมาะกับการปั่นวันที่มีเมฆมากหรือฝนตกและการปั่นในเวลากลางคืน ตัวเลนส์ช่วยเพิ่มการมองเห็นในสภาพแสงน้อย โดยการปรับอัตราการส่องผ่านของแสงที่มองเห็นได้ 80% และตัวเลนส์ยังมีการเคลือบสารที่ช่วยกันแสงจ้าจากไฟหน้ารถได้อีกด้วย

S-PHYRE R และ S-PHYRE X เป็น 2 รุ่น Top ทั้งคู่ มีคุณสมบัติเหมือนกัน ตัวเลนส์จะมีการเคลือบสาร กันแสงสะท้อน กันรอยขีดข่วน เคลือบผิวกันน้ำและฝุ่นเกาะเลนส์ แตกต่างกันตรงเป็นแว่นไร้ขอบและมีขอบ

S-PHYRE R

เหมาะสำหรับคนที่ชอบแว่นไร้ขอบ ตัวแว่นที่ไม่มีขอบจะช่วยให้มองเห็นชัดเจนขึ้น และตัวเลนส์มีความ Aerodynamic มีน้ำหนักเบา เพียง 23.7 กรัม และเลนส์ PH (Photochromic) 25.9 กรัม ตัววัสดุมีความเหนียวและยืดหยุ่นสูง มีเลนส์ให้เลือกทั้ง Ridescape Road และเลนส์ปรับแสงอัติโนมัติ Photochromic นอกจากนี้ยังมี Nose pads ที่เปลี่ยนได้ทั้งขนาดใหญ่และเล็ก พร้อมกับเลนส์สำรองรุ่น Ridescape CL ไว้สำหรับปั่นกลางคืนมาให้ในกล่อง

ราคา 5,550 บาท ( สี Silver และ Red )
ราคา 5,000 บาท ( สี Black และเลนส์ Photochromic )

S-PHYRE X

รุ่นนี้ออกแบบให้ใช้ได้ทั้ง Road และ MTB  ตัวเฟรมเป็นแบบ half lens design ตัวขอบข้างล่างสามารถถอดออกได้ และมีขอบให้เปลี่ยนถึง 5 สี มีน้ำหนัก 26.3 กรัม ตัวเลนส์ PH (Photochromic) 28.6 กรัม มีทั้งเลนส์ Road / Off Road และPhotochromic โดยแบ่งเป็น

  • S-PHYRE X, Black, เลนส์ปรับแสง Photochromic
  • S-PHYRE X, White, เลนส์ Photochromic
  • S-PHYRE X, Black, เลนส์ Ridescape road
  • S-PHYRE X, Black, เลนส์ Ridescape off-road
  • S-PHYRE X, White, เลนส์ Ridescape road
  • S-PHYRE X, Red, เลนส์ Ridescape road
  • S-PHYRE X, Blue, เลนส์ Ridescape off-road

นอกจากนี้มี Nose pads สำรอง เฟรมด้านล่างแบบ Half frame ( มี 4 สี ) และเลนส์กลางคืน Ridescape CL มาพร้อมในกล่อง

ราคา 5,550 บาท